‘ศุลาลัย’เปิดแผนปี’62ลุยเปิดโครงการกรุงเทพ-ตจว.4หมื่นล้านบ. คาดมาตรการแอลทีวีกระทบลูกค้า5-10% ลุยออกโปรฯเร่งระบายสต็อกค้าง

นายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2562 คาดว่าผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์จะมีการพัฒนาโครงการใหม่ต่อเนื่องรองรับความต้องการที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคที่ยังมีเพิ่มขึ้น โดยแรงหนุนจากการเติบโตมาจากอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจประเทศ(จีดีพี) ที่ยังเติบโต จากภาครัฐมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง การส่งเสริมการลงทุนโดยเฉพาะในโครงการพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก(อีอีซี) การส่งออกและการท่องเที่ยวยังคงเพิ่มขึ้นแม้จะชะลอไป คนไทยที่มีรายได้หรือเงินเดือนประจำยังคงมีรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่าเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามปัจจัยเสี่ยงจากความผันผวนเศรษฐกิจโลกและสงครามการค้า ความเข้มงวดในการปล่อยกู้ของสถาบันการเงินต่างๆ ภายใต้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่เพิ่มขึ้น หนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง มาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทยที่เข้ามาควบคุมอัตราส่วนการให้สินเชื่อเพื่อซื้อบ้านเทียบกับมูลค่าบ้าน (แอลทีวี) ที่จะกระทบลูกค้าบางกลุ่ม ด้านปัจจุบันราคาที่อยู่อาศัยปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากต้นทุนของราคาที่ดินในประเทศขยายตัวต่อเนื่อง เพราะหากเทียบจากสถิติตั้งแต่ปี 2541-2561 หรือกว่า 20 ปีที่ผ่านมา พบว่าราคาที่ดินปรับเพิ่มมากกว่าเท่าตัวอยู่ที่ระดับ 210 จากเดิมที่อยู่ระดับ 100 เท่านั้น แต่เชื่อว่าหลังจากนี้เจ้าของที่ดินต่าง ๆ ที่ตั้งราคาขายที่ดินในราคาที่สูงเกินจริง จะทยอยปรับราคาลดลงให้สอดคล้องกับตลาดและเป็นจริงมากขึ้น เพื่อขายให้กับผู้ประกอบการนำไปพัฒนาโครงการต่อ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่เริ่มใช้ต้นปี 2563 โดยเฉพาะกลุ่มที่มีที่ดินไม่ทำประโยชน์ จะเริ่มระบายที่ดินเปล่าออกมาเพิ่มขึ้น

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กลยุทธ์ธุรกิจปีนี้บริษัทจะต้องปรับตัวท่ามกลางความเสี่ยงต่าง ดังนั้นจึงจะมีการขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่และสินค้าระดับพรีเมียมมากขึ้น มีการออกแบบบ้านใหม่และฟังก์ชั่นใหม่รองรับการใช้งานลูกค้า มีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่อยู่อาศัยเข้ามาใช้ มีการลงทุนด้านระบบฐานข้อมูลลูกค้ารวมทั้งการลงทุนระบบก่อสร้าง รวมทั้งยังเน้นการพัฒนาโครงการที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ราคา 60,000-80,000 ล้านบาทต่อตารางเมตร โดยแผนงานของบริษัทปีนี้ มีแผนจะเปิดโครงการใหม่มากที่สุดถึง 34 โครงการ มูลค่า 40,000 ล้านบาท จำนวนนี้แบ่งเป็นคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ 6 โครงการ โครงการแนวราบ 13 โครงการในกรุงเทพ และอีก 15 โครงการแนวราบในต่างจังหวัด ซึ่งจะมีการเปิดโครงการในจังหวัดใหม่ อาทิ อยุธยา พิษณุโลก เป็นต้น และปัจจุบันมีการพัฒนาโครงการในต่างจังหวัดแล้วกว่า 12 จังหวัด ด้านยอดขายคาดว่าจะอยู่ที่ 35,000 ล้านบาท เติบโต 5% จากปี 2561 ที่ 33,343 ล้านบาท และคาดว่าจะรับรู้รายได้ 28,000 ล้านบาท เติบโต 5% จากปี 2561 ที่ 26,000 ล้านบาท และเตรียมงบสำหรับซื้อที่ดินทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดกว่า 8,000 ล้านบาท

นายไตรเตชะ กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นมองว่ายังอยู่ในระดับต่ำ แต่อาจจะกระทบต่อการกู้ของลูกค้าบ้าง อย่างไรก็ตาม อัตราการปฏิเสธสินเชื่อของธนาคารยังอยู่ในระดับต่ำที่ประมาณ 9% โดยส่วนใหญ่ที่ถูกปฏิเสธสินเชื่อระดับราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท ด้านมาตรการแอลทีวีของธปท.ที่จะมีผลบังคับใช้วันที่ 1 เมษายน 2562 นั้น คาดว่าจะมีผลกระทบกับลูกค้าเพียง 5-10% เพราะลูกค้าส่วนใหญ่เป็นการซื้อหลังแรก อย่างไรก็ตาม บริษัทได้จัดโปรโมชั่นโปรซิ่งวิ่งหน้าตั้งเพื่อรองรับก่อนที่จะมีมาตรการแอลทีวีจะบังคับใช้ และให้ส่วนลดถึง 270,000 บาท หากกู้ไม่ผ่านยินดีคืนเงิน ซึ่งในช่วงไตรมาสแรกนี้มีโครงการพร้อมโอนกรรมสิทธิ์เป็นโครงการคอนโดมิเนียม 6,000 ล้านบาท จำนวน 2,000 ยูนิต โครงการแนวราบ 5,000 ล้านบาท จำนวน 1,200 ยูนิต ซึ่งปกติจะมียอดขายเฉลี่ยราว 2,000 ล้านบาท

 

Advertisement

เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว

เพิ่มเพื่อน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image