เจออีกคดี!! ปุ๊ 5 ศพเขยปืนโหด ประวัติร้าย อุบายแสบโกง “บาทหลวง” ผู้มีพระคุณ สูบ 30 ล้านแล้วชิ่ง ที่มารวยอู้ฟู่

เมื่อวันที่ 15 มกราคม มีความคืบหน้าหลังตำรวจจับกุมนาย นายธีรพล ปิ่นอมร หรือ ปุ๊ ผู้ต้องหาฆ่ายกครัว 5 ศพ ครอบครัวของภรรยา ในพื้นที่ สภ.พญาแมน จ.อุตรดิตถ์ โดยรายงานข่าวแจ้งว่า ตำรวจได้สืบสวน ที่มาของทรัพย์สิน เงินจำนวนมาก ที่นายธีรพล ผู้ต้องหามีอยู่ จากการตรวจสอบพบว่าได้มาจากการฉ้อโกงเงินบาทหลวงไชโย กิจสกุล อายุ 66 ปี อธิการสามเณราลัยนักบุญยอแซฟ  โรงเรียนยอแซฟอุปถัมภ์ อ.สามพราน จ.นครปฐม โดยคดีนี้มีการแจ้งความไว้กับพนักงานสอบสวน สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมาก่อนนายธีรพลไปก่อเหตุสลด

จากการสืบสวนพบว่า นายธีรพล รู้จักกับบาทหลวงไชโย ตั้งแต่ปี 2557 โดยนายธีรพล ติดต่อขอเงิน ขอความช่วยเหลือจากบาทหลวงหลายครั้ง จนเป็นคนคุ้นเคยกัน อยู่มาวันหนึ่งนายธีรพล ทำทีขับรถไปหาบาทหลวงไชโย ซึ่งกำลังจัดกิจกรรมอบรมอยู่ที่ โรงเรียนดาราสมุทร อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เพื่อขอความช่วยเหลือด้านการเงินอีกครั้ง โดยอ้างเป็นเจ้าของที่ดินแปลงหนึ่งเนื้อที่ 10 ไร่ ที่จ.ภูเก็ต  พร้อมนำเอกสารกรรมสิทธิ์ที่ดินมาแสดง  พร้อมบอกว่าขายที่ดินผืนดังกล่าวให้กับผู้ที่สนใจได้แล้วในราคา 35 ล้านบาท  แต่ไม่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้เนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่อายัดเงินไว้เพราะเคยมีคดีเก่าที่ญาติพี่น้องถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับยาเสพติด

การสืบสวนพบว่า นายธีรพล ขอร้องบาทหลวงไชโย ให้ช่วยหาเงินจำนวน 29,861,560 บาท ให้เพื่อนำไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเอาเงินจากการขายที่ดินจำนวน 35 ล้านบาทออกจากบัญชีธนาคารที่ถูกอายัดไว้ บาทหลวงไชโย จึงหลงเชื่อยอมนำเงินส่วนตัวมอบให้กับนายธีรพล เพราะเห็นว่าเอกสารผู้ครอบครองเป็นชื่อของนายธีรพลจริง แต่เมื่อถึงกำหนดจะต้องคืนเงินตามที่คุยกันไว้ นายธีรพลกลับบ่ายเบี่ยงและพยามหลบหน้าก่อนจะขาดการติดต่อไปในที่สุด บาทหลวงไชโย จึงเริ่มสงสัยติดต่อสอบถามไปยังสำนักงานที่ดิน จ.ภูเก็ต จึงทราบความจริงว่านายธีรพลไม่ได้เป็นเจ้าของที่ดินผืนดังกล่าวตามที่กล่าวอ้าง ติดต่อไกล่เกลี่ยกันเองเป็นปี แต่นายธีรพลก็บ่ายเบี่ยงเรื่อยมา  จึงนำเรื่องไปเข้าแจ้งความกับทางพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม แต่ทางกองปราบฯไม่ได้รับเรื่องเนื่องจากไม่ใช่ขอบเขตความรับผิดชอบของกองปราบฯ จึงแนะนำให้บาทหลวงไชโย ไปแจ้งความกับทางตำรวจท้องที่เกิดเหตุ คือ สภ.ศรีราชา เมื่อช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวน สภ.ศรีราชา ได้รับเรื่องคดีดังกล่าวไว้พิจารณาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเอาผิดกับนายธีรพล ในข้อหาฉ้อโกง อีก 1 คดี

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image