ธนาคารโลกคาดจีดีพีไทย3.8% หวังลงทุน-บริโภคดันโต ห่วงสงครามการค้ากดดัน-การเมืองไม่สงบทำนโยยายไม่ต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 16 มกราคม ที่โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ ธนาคารโลกเปิดเผยรายงานตามติดเศรษฐกิจไทย: ความเหลื่อมล้ำ โอกาส และทุนมนุษย์ ที่วิเคราะห์ผลการดำเนินการและแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศไทยในปี 2562 โดยนายเกียรติพงศ์ อริยปรัชญา นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสประจำเทศไทย ธนาคารโลก เปิดเผยว่า
ธนาคารโลกคาดว่าภาพรวมเศรษฐกิจโลกปี 2562 จะไม่สดใสท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้า คาดว่าจะขยายตัว 2.9% ชะลอตัวจากปี 2561 ที่ 3.0% ขณะที่ประเทศเศรษฐกิจหลักคาดขยายตัว 2.0% และประเทศตลาดเกิดใหม่ขยายตัว 4.2% ด้านเศรษฐกิจสหรัฐคาดขยายตัว 2.5% เศรษฐกิจจีนขยายตัว 6.2% สำหรับอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจ(จีดีพี) ไทยปี 2562 คาดว่าจะชะลอลงตามภาวะเศรษฐกิจโลกโดยขยายตัวที่ 3.8% จากเดิมที่คาดขยายตัว 3.9% แต่คาดว่าจะฟื้นตัวเล็กน้อยและขยายตัว 3.9% ในปี 2563 ซึ่งแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยต้องพึ่งพาการบริโภคในประเทศ เนื่องจากการส่งออกได้รับผลกระทบจากความต้องการในตลาดโลกที่ลดลง คาดส่งออกปีนี้ขยายตัว 5% รวมทั้งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐที่ขณะนี้เริ่มมีการประมูลและลงนามสัญญาและการลงทุนเอกชนที่เริ่มกลับมา มีการขอส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ หากประเทศไทยมีการปฏิรูปเศรษฐกิจตามแผนที่วางไว้อย่างต่อเนื่องจะช่วยกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศในอนาคต และช่วยเสริมการเติบโตเศรษฐกิจในระยะกลาง ซึ่งที่ผ่านมาภาครัฐได้มีการผลักดันกฎหมายออกมา เช่น กฎหมายวิธีการงบประมาณ ปี 2561 กฏหมายพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตัวันออก(อีอีซี) แผนบริหารจัดการน้ำ กฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำได้

นายเกียรติพงศ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยมีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น โดยเศรษฐกิจสหรัฐและจีนอาจจะชะลอตัวลงอีกเนื่องจากสงครามการค้า ทำให้ความต้องการในตลาดโลกยังเสี่ยงที่จะลดลงต่อเนื่องและจะกระทบกับการส่งออกของไทย และนักลงทุนอาจจะชะลอการลงทุนในอุตสาหกรรมส่งออกรวมถึงอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้ ผลกระทบหากเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลง 1% จะกระทบจีดีพีประเทศเกิดใหม่1% ขณะที่หากจีนชะลอลง 1% จะกระทบเศรษฐกิจเกิดใหม่ 0.5% ในส่วนของไทยผลกระทบของสงครามการค้ายังไม่ได้กระทยมากนัก เพราะยังมีตลาดทดแทนที่ขยายตัวได้ดี เช่นตลาดอาเซียน นอกจากนี้ ต้องติดตามความเสี่ยงภายในประเทศ กรณีความไม่ต่อเนื่องของนโยบายเศรษฐกิจที่อาจจะทำให้โครงการลงทุนรัฐชะลอลง รวมทั้งความเสี่ยง การลงทุนเอกชนที่จะชะลอลง ถ้ามีความไม่สงบทางการเมืองเกิดขึ้น

ประเมินเศรษฐกิจไทยจากธนาคารโลก

“ปี 2561 ที่ผ่านมาคาดเศรษฐกิจไทยขยายตัว 4.1% โดยเศรษฐกิจไทยสามารถยืนหยัดได้แม้ว่าจะต้องฝ่าแรงปะทะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอลง เนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีแรงหนุนการบริโภคและการลงทุนเอกชนเพิ่มขึ้น จะเห็นว่าไทยมีพัฒนาการโครงสร้างการเจริญเติบโตมาจากในประเทศเพิ่มมากขึ้นจากเดิมที่สัดส่วนการส่งออกมา จึงเป็นภาพที่ดูดีเทียบบรรยากาศโลกเพราะประเทศเกิดใหม่เผชิญส่งออกลดลงจากการค้าชะลอตัว ด้านอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ในระดับต่ำรองรับการขยายตัวเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ รวมทั้งมีเสถียรภาพดีทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทุนสำรองระหว่างประเทศสูง และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลกว่า 8% จีดีพี” นายเกียรติพงศ์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image