ราคาเหล็กผันผวน ไพร์มสตีลฯกระจายเสี่ยงธุรกิจแตกไลน์ร่วมทุนลุยอสังหาฯผุดบ้านเหล็กเจาะลูกค้าอยู่อาศัยเอง-สตาร์ทอัพ-เอสเอ็มอี

นายวินท์ สุธีรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไพร์ม สตีล มิลล์ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมราคาเหล็กปี 2562 คาดว่าจะมีความผันผวน เนื่องจากราคาเหล็กอาจจะปรับลดลงตามราคาน้ำมันในตลาดโลกที่มีทิศทางชะลอตัว รวมทั้งผลจากสงครามการค้าสหรัฐและจีนที่สหรัฐมีการปรับขึ้นภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมจากจีน ซึ่งอาจจะมีผลกระทบต่อผู้ผลิตเหล็กในไทยได้ อย่างไรก็ตาม บริษัทและผู้ผลิตเหล็กในไทยหลายรายได้ปรับตัวโดยไม่สต็อกเหล็กจำนวนมากเพราะอาจได้รับผลกระทบจากราคาที่อาจจะเปลี่ยนแปลง รวมทั้งมีการทำสัญญาระยะยาวกับลูกค้าผู้ใช้เหล็กเพื่อให้สามารถผลิตและมียอดขายต่อเนื่องได้ อย่างไรก็ตาม คาดว่าความต้องการใช้เหล็กในประเทศปีนี้จะยังขยายตัวต่อเนื่องที่ 17-18 ล้านตัน จากปี 2561 ที่ 16-17 ล้านตัน ผลจากโครงการลงทุนภาครัฐ รวมทั้งโครงกาาลงทุนอสังหาริมทรัพย์ที่ปัจจุบันผู้ประกอบการมีการซื้อที่ดินเตรียมไว้แล้วหากการเมืองและการเลือกตั้งชัดเจนน่าจะมีการเดินหน้าลงทุนเพิ่ม

นายวินท์ กล่าวว่า บริษัทได้ลงทุน 200-300 ล้านบาทเพื่อเพิ่มความเร็วในการผลิต คาดกำลังการผลิตจะเพิ่มเป็น 600,000 ตันต่อปี จากปัจจุบัน 500,000 ตันต่อปี และบริษัทได้ขยายไลน์ธุรกิจใหม่เพื่อกระจายความเสี่ยง โดยได้จัดตั้งบริษัท บล็อกซ์ จำกัด ทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท เป็นบริษัทร่วมทุนโดยบริษัทถือหุ้น 45% ร่วมกับบริษัท ซิตี้สเคป จำกัด ถือหุ้น 25% และบริษัท มั่นคง สตีล จำกัด ถือหุ้น 25% เพื่อพัฒนาบ้านเหล็ก ภายใต้ชื่อ บล็อกซ์ ลีฟวิ่ง เป็นบ้านเหล็กแบบน็อกดาวน์ มีจุดเด่นคือใช้ฉนวนกันความร้อนและเย็น แบบเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมห้องเย็น ทำให้วามารถกันความร้อนเย็นที่จะเข้ามาในตัวบ้านได้ดี ทั้งนี้ การก่อสร้างไม่ต้องใช้อิฐ หิน ปูน ทราย และซิเมนต์ ทำให้ไม่เกิดฝุ่นควันและปัญหามลพิษทางอากาศ

นายวินท์ กล่าวว่า สำหรับบล็อกซ์ ลีฟวิ่ง เน้นกับกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการบ้านเพื่อการอยู่อาศัยเอง หรือสำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) ธุรกิจสตาร์ตอัพ รวมทั้งร้านกาแฟ เป็นต้น โดยแบบพื้นฐานขนาดพื้นที่เริ่มต้น 15 ตารางเมตร ราคา 150,000-200,000 บาทต่อยูนิต และสามารถเพิ่มขนาดพื้นที่ใช้สอยได้ ส่วนแบบที่มีชั้นลอย ราคาเริ่มต้น 250,000 บาทต่อยูนิต สามารถเพิ่มขนาดพื้นที่ใช้สอยได้ โดยมีค่าขนส่งและติดตั้งตามระยะทาง จะมีการทำการตลาดทั้งช่องทางออนไลน์ และช่องทางโมเดิร์นเทรด รวมทั้งจะไปจัดแสดงในงานสถาปนิก 2562 ด้วย ตั้งเป้าหมายยอดขาย 500 ยูนิต หรือประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าธุรกิจนี่จะได้รับการตอบรับและขยายตัวเร็วในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ขณะที่ยอดขายเหล็กปีนี้คาดว่าจะขายได้จำนวนเพิ่มขึ้น แต่รายได้จากการขายเหล็กปีนี้คาดว่าจะใกล้เคียงกับปี 2561 ที่ผ่านมาราว 10,000 หมื่นล้านบาท เนื่องจากราคายังมีความผันผวนอยู่

Advertisement

นอกจากนี้ นายวินท์ กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันโรงงานของบริษัทตั้งอยู่ที่นิคมอมตะซิตี้ จ.ระยอง พื้นที่ 97 ไร่ ใช้พื้นที่ไปแล้ว 50 ไร่ คาดว่าจะมีการขยายการลงทุนในพื้นที่ที่เกลือในอนาคต โดยจะเน้นการผลิตที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเหล็กมากขึ้น ส่วนแผนการเข้าระดมทุนในตลาดกลักทรัพย์ของบริษัทจากเดิมที่คาดว่าจะมีการเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก(ไอพีโอ) ในปีนี้ จะชะลอออกไปก่อนและจะพิจารณาอีกครั้ง เนื่องจากราคาเหล็กยังมีความผันผวน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image