ตลาดรถยนต์หรูนำเข้าอ่วม‘บีอาร์จี’งัด‘ศูนย์บริการ’สู้

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ธุรกิจรถยนต์นำเข้าจากต่างประเทศหรือที่เราเรียกกันติดปากว่า เกรย์ ได้รับผลกระทบจากการแข่งขันทางธุรกิจอย่างรุนแรง ทำให้หลายรายต้องเลิกกิจการไป ส่วนที่ยังเหลืออยู่ต้องปรับตัวเองครั้งใหญ่ หลังจากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ โดยเฉพาะทั้งเบนซ์ บีเอ็มดับเบิลยู โตโยต้า เล่นเกมแรง ทั้งการหั่นราคาจำหน่ายลง ไม่รับบริการหลังการขายสำหรับรถที่ซื้อจากผู้นำเข้าอิสระ การชิงจังหวะเปิดตัวรถรุ่นใหม่เร็ว ไม่รอนานเหมือนในอดีต จึงเป็นที่มาของแรงกระแทกที่มีต่อผู้นำเข้ารถยนต์อิสระต้องปิดตัวไปในหลายที่

จะมีที่เหลืออยู่ก็แต่บริษัทที่มีศักยภาพฟันฝ่าอุปสรรคมาได้ หนึ่งในนั้นก็คือ บีอาร์จีกรุ๊ป บริษัทรถยนต์นำเข้า อยู่ยงคงกระพันมานับ 40 ปี

นายสมศักดิ์ ศรีรัตนประภาส ประธานกรรมการบริหาร บีอาร์จี กรุ๊ป บริษัทผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ระดับพรีเมียมจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก ได้เปิดมุมมองและทิศทางของตลาดรถนำเข้าในปี 2562 นี้

⦁ตลอด 3-4 ปีที่ผ่านมานี้ เกิดอะไรขึ้นกับตลาดรถยนต์นำเข้า

Advertisement

ช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ถือว่าตลาดรถนำเข้าต้องเจอกับบททดสอบหนักๆ หลายเรื่อง มากระจุกอยู่ในช่วงเวลาเดียวกันด้วย ทั้งเรื่องผลกระทบจากภาพรวมเศรษฐกิจและการเมือง รวมถึงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงข้อกฎหมายการนำเข้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกณฑ์ภาษีใหม่ โดยใช้ซีโอทู (CO2) เป็นตัวกำหนด เรื่องภาษีสรรพสามิตแบบใหม่ ขั้นตอนต่างๆ เพิ่มขึ้นมากทั้งหมดนี้ทำให้บริษัทรถนำเข้าต้องปรับตัวอย่างมาก

หากใครไม่สามารถปรับตัวได้ ก็จะหายจากไป ส่วนบริษัทที่ปรับตัวได้ทัน ทำได้ตามขั้นตอนรัฐถูกต้อง แต่ก็ต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ มากมาย ทั้งขั้นตอนการปฏิบัติต่างๆ เป็นเรื่องใหม่มาก ทำให้การนำรถยนต์เข้า และนำออกจำหน่ายแต่ละคัน ต้องใช้เวลามากกว่าแต่ก่อนมาก ต้องเจอกับภาวะราคา จำเป็นต้องปรับโครงสร้างราคารถยนต์ขึ้นทุกรุ่น เพื่อให้สอดคล้องกับโครงสร้างภาษีแบบใหม่ ทำให้ตลาดรถนำเข้าชะลอตัวมาก ประกอบกับสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไม่ดีด้วย เลยทำให้ยิ่งหนักเข้าไปอีก

⦁บีอาร์จี ปรับตัวยังไงในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา

Advertisement

ตลอดระยะเวลา 40 ปีที่เราทำธุรกิจรถยนต์มา ต้องเจอกับภาวะปัญหา การเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นเรื่องการปรับตัวของ บีอาร์จี จึงไม่ใช่เรื่องยากเกินไปนัก ถ้าเป็นเรื่องของกฎหมาย ก็แค่ต้องทำตามกฎหมาย และข้อกำหนดต่างๆ ที่รัฐกำหนดไว้ คือทำทุกอย่างให้ถูกต้องก็จะไม่มีปัญหา ส่วนเรื่องยอดขายชะลอตัวนั้น เราก็รับมือด้วยการรัดเข็มขัดตัวเองมากขึ้น ตัดอะไรที่ไม่จำเป็นออก แต่เพิ่มเติมในส่วนจำเป็น โดยเฉพาะในส่วนของศูนย์บริการ

⦁หมายถึงเพิ่มงบลงทุนในส่วนของศูนย์บริการ?

ใช่ คือปัจจัยสำคัญเลยที่ทำให้ บีอาร์จี ดำเนินกิจการแวดวงรถยนต์ได้จนถึงทุกวันนี้ คือเรื่องของศูนย์บริการ คือไม่ว่าสถานการณ์ด้านอื่นๆ จะเป็นยังไง แต่ศูนย์บริการจะหยุดนิ่งไม่ได้ ต้องพัฒนาอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะรถยนต์นำเข้า ต้องพัฒนาบุคลากร และเครื่องมือให้ทันกับรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ออกสู่ตลาดทุกปี เพราะฉะนั้นแม้ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ในแง่ของงานขายอาจจะชะลอตัว แต่ส่วนของศูนย์บริการของ บีอาร์จี ไม่เคยชะลอตัว มีแต่ต้องพัฒนาต่อไปทุกวัน ศูนย์บริการของบีอาร์จี
ถือเป็นจุดขายสำคัญของเรา ที่ทำให้ลูกค้าในตลาดรถยนต์นำเข้า เกิดความเชื่อมั่นในสินค้า และบริการหลังการขายได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่เรามีศูนย์บริการครบวงจร ทั้งงานเครื่อง ช่วงล่าง งานสี-ตัวถังงานเปลี่ยนกระจก งานประกันภัย รวมถึงมีคลังอะไหล่ขนาดใหญ่สำหรับรถนำเข้ารุ่นต่างๆ และเรายังมีแม้กระทั่งรถยกของเราเอง คอยให้บริการลูกค้าตลอด 24 ชม. ส่วนนี้เอง เราต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อความเชื่อมั่นของลูกค้า และเพื่อความยั่งยืนต่อไป

⦁ปี 2562 นี้ บีอาร์จีมีแผนพัฒนาศูนย์บริการอย่างไรบ้าง

ปีนี้ด้านการพัฒนาศูนย์บริการของ บีอาร์จีจะมีอยู่ 3 ส่วนหลักๆ เราทุ่มงบลงทุนไป หนึ่งคือ การขยายสาขา จากเดิมมี 5 สาขา คือที่ ศรีนครินทร์, รามคำแหง, แจ้งวัฒนะ, สุทธิสาร และภูเก็ต ปีนี้จะเพิ่มอีกหนึ่งแห่ง คือ ถนนกาญจนาภิเษก เขตบางใหญ่ บนเนื้อที่กว่า 4 ไร่ เป็นโชว์รูมและศูนย์บริการ รถยนต์นำเข้าใหญ่ที่สุดในประเทศเลยก็ว่าได้ ส่วนที่สองคือการปรับปรุงสถานที่ตัวโชว์รูม และศูนย์บริการ 2 แห่ง คือ ศรีนครินทร์และรามคำแหง ลงทุนไปแล้วกว่าหนึ่งล้านบาท เพื่อทำเว็บไซต์ใหม่ และจัดทำแอพพลิเคชั่นมือถือ สามารถอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างมาก คาดว่าจะมีเปิดตัว และเปิดใช้งานแอพพลิเคชั่นดังกล่าวได้ในช่วงไตรมาสที่ 2 นี้ บีอาร์จี ถือเป็นเจ้าแรกในตลาดรถยนต์นำเข้าที่จะมีระบบแอพพลิเคชั่นนี้เข้ามาบริการลูกค้า

⦁ปี 2562 สภาพตลาดรถนำเข้าจะไปในทิศทางใด

ในปี 2562 หลังจากการเลือกตั้งน่าจะทำให้สถานการณ์ต่างๆ ดีขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศน่าจะดีขึ้นเป็นลำดับ ประกอบกับภาวะต่างๆ ที่บริษัทรถนำเข้าต้องเผชิญมาตลอด ก็เริ่มจะมีความนิ่งมากขึ้น มีความเข้าใจ และสามารถทำตามขั้นตอนต่างๆ ได้ถูกต้อง นอกจากนี้ในปีนี้ ยังมีรถยนต์รุ่นใหม่ๆ เปิดตัวอีก ทั้งรถจากฝั่งญี่ปุ่น หรือจากฝั่งยุโรป เป็นรุ่นที่มีกลุ่มลูกค้าเฝ้ารออยู่ ไม่ว่าจะเป็น โตโยต้า ซูปร้า หรือปอร์เช่ 911 คิดว่าในปี 2562 ตลาดรถยนต์นำเข้าน่าจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง หรืออย่างน้อยก็น่าจะดีกว่าช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์นำเข้าโดยรวมน่าจะโตกว่าปีก่อนได้ถึง 10 เปอร์เซ็นต์

บีอาร์จี มีโปรโมชั่นในส่วนของศูนย์บริการ มอบส่วนลดค่าแรงสูงสุด 35 เปอร์เซ็นต์ และจัดโปรโมชั่น ฟรี ค่าแรกเข้า จากปกติจะมีค่าแรกเข้าอยู่ที่ 200,000 บาท ต่อคัน ตั้งแต่วันนี้จนถึง 28 กุมภาพันธ์ 2562

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image