เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ที่โรงแรมปาร์ควิวแอนด์รีสอร์ท จ.ปัตตานี พล.อ.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ พบปะผู้นำศาสนา เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนหารือหาแนวทางในการแก้ไขหลังจากที่ทางกลุ่มของมาราปาตานี ออกแถลงการณ์ระงับการพูดคุยสันติสุขกับไทย โดยระบุว่าไม่พอใจที่พล.อ.อุดมชัยขอพูดคุยกับอุสตาส สุกรี ฮารี หัวหน้าคณะพูดคุยของมาราปาตานี เพียงคนเดียว พร้อมขอให้ไทยเปลี่ยนหัวหน้าคณะพูดคุย
พล.อ.อุดมชัยกล่าวว่า ตนเชิญบรรดาโต๊ะครูที่มีความรู้ทางด้านศาสนาอิสลามมาเพื่อขอคำแนะนำในการแก้ปัญหาความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะการพูดคุยสันติสุข ตนเรียนถามบรรดาโต๊ะครูว่าในหลักการนั้น เมื่อทางคณะเรายื่นหนังสือไปเราจะขอพูดคุยกันเพื่อเพื่อจะออกจากความขัดแย้งด้วยสันติวิธีโดยไม่ใช้ความรุนแรงแล้วอีกฝ่ายหนึ่งยังไม่ตอบรับนั้น หลักการศาสนาอิสลามว่าอย่างไร บรรดาโต๊ะครูได้ตอบมาว่า การกระทำของรัฐบาลนั้นถูกต้องแล้วเมื่อจะออกจากความรุนแรงในศาสนาอิสลามได้ให้ยื่นหนังสืออย่างที่ทำนั้นถูกต้องแล้ว ถ้าเขาไม่ตอบรับก็ต้องใช้ความพยายามแสดงให้เห็นความจริงใจว่า เราดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง ก็ให้ทำหนังสือต่อไปอีก
พล.อ.อุดมชัยกล่าวถึงกรณีที่ทางกล่มมาราปัตตานีปฏิเสธในการพูดคุยว่า ที่ตนจะไปที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย และมีหนังสือแจ้งไปทางเลขาว่า ตนจะขอคุยกับผู้อำนวยความสะดวก เพื่อยื่นหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรว่า แนวทางของการพูดคุยของคณะพูดคุยของเราจะดำเนินการอะไรได้บ้าง เป็นสรุปแนวทางที่ตนเคยแจ้งไว้ตนจะคุยกับทุกกลุ่มอย่างไม่เป็นทางการ ไม่บังคับใคร และเรื่องภายในของเราและอื่นๆ ก็ได้ยื่นไป
พล.อ.อุดมชัยกล่าวว่า พร้อมกันนี้ได้บอกกับคณะผู้อำนวยความสะดวกไปว่า ตนส่งพล.ต.เกรียงไกร ศรีรักษ์ เลขาคณะแยกไปพูดคุยกับกลุ่มของมาราปัตตานี เพื่อเตรียมการประชุมกับตนเต็มคณะในครั้งต่อไป แต่วันนั้นเมื่อตนไปถึงทางผู้อำนวยการอำนวยความสะดวกก็บอกว่า ทางคณะของมาราปัตตานีทราบว่าตนมา ก็จะมาขอคุยกับตนเต็มคณะ ตนก็เลยบอกว่ามันไม่ได้เป็นไปตามแผน ตนไม่ได้เตรียมเรื่องที่จะมาคุยกับมาราปัตตานี เพียงแต่เตรียมให้พล.ต.เกรียงไกร ไปประชุมแบบไม่เป็นทางการว่าจะคุยกันเรื่องอะไร เป็นอย่างไร มันเป็นหลักสากลโดยทั่วไปในการประชุมควรจะทำอย่างไร
“ส่วนที่ทางมาราปัตตานีได้ขอให้มีการเปลี่ยนหัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุขฝ่ายไทยนั้น ก็แล้วแต่รัฐบาล ผมว่าสังคมควรคิดเอาเองว่าจะทำอะไรอย่างไร ผมได้รายงานไปให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ ผมก็รักษาเพื่อไม่ให้เสียน้ำใจ เมื่อมาแล้วผมก็ขอคุยเฉพาะอุสตาสสุกรี ได้คุยกันสองต่อสองเพื่อได้แจ้งว่าเรื่องราวมันเป็นมาอย่างไร แต่เขาก็ไปออกคลิปปฏิเสธผม ก็ขอให้สังคมได้รู้ แต่ผมยังจะคุยกับทุกกลุ่มต่อไปในเมื่อผมเป็นหัวหน้าคณะพูดคุย ผมต้องรับ ภารกิจของผมคือการลดการเผชิญหน้าด้วยความรุนแรงด้วยการพูดคุยหาทางออกจะต่อรองกันว่าจะต้องทำอย่างไร อะไรที่ทำได้ก็จะทำเลย อะไรที่มันติดกรอบของกฎหมายให้แก้ไขกันไปด้วยสันติวิธี”พล.อ.อุดมชัยกล่าว
