นางศศิธร พงศธร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ หรือแอลเอชแบงก์ เปิดเผยว่า ธนาคารได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อปี 2562 อย่างระมัดระวังจากภาวะเศรษฐกิจที่อาจจะมีความผันผวนทั้งจากปัจจัยภายนอกประเทศและปัจจัยภายในประเทศ และจะให้ความสำคัญกับการปรับขอสินเชื่อให้มีความเหมาะสมเพื่อลดการกระจุกตัวสินเชื่อและให้พอร์ตสินเชื่อกระจายตัวมากขึ้น ปัจจุบันยอดคงค้างสินเชื่อของธนาคารอยู่ที่ 245,933 ล้านบาท สัดส่วนเป็นสินเชื่อรายใหญ่ 76% สินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) 11% และสินเชื่อรายย่อย โดยส่วนใหย่เป็นสินเชื่อบ้านที่ 13% สำหรับปีนี้คาดว่าสินเชื่อปีนี้เติบโต 6-8% จากการเติบโตของสินเชื่อทั้ง 3 กลุ่ม รวมทั้งปีนี้ได้เปิดให้บริการธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ (เทรดไฟแนนซ์) เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตสูงสามารถสร้างรายได้ให้กับธนาคาร และเพื่ออำนวยความสะดวกให้ธุรกิจนำเข้าและส่งออกของไทยที่ขยายตัวต่อเนื่อง โดยใช้ความเชี่ยวชาญของธนาคารซีทีบีซี พันธมิตรของธนาคารจากไต้หวัน ขณะที่หนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ธนาคารยังคงรักษาให้อยู่ในระดับต่ำ ไม่เกินระดับ 2% จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 1.93% ส่งผลให้การตั้งสำรองหนี้เสียในปีนี้เป็นไปตามปกติอยู่ในระดับใกล้เคียงกับช่วงปีที่ผ่านมา
นางศศิธร กล่าวว่า ธนาคารยังได้ให้บริการ แอลเอชแบงก์ โมบายล์ เพย์เม้นต์เซอร์วิส สำหรับร้านค้าหรือบริการรับชำระค่าสินค้า และบริการผ่านโทรศัพท์มือถือ โดยการสแกนคิวอาร์โค้ด เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าให้สามารถชำระค่าสินค้า และบริการผ่านอีวอลเลทจากทั่วโลก ทั้งนี้ ธนาคารมีแผนเพิ่มช่องทางการให้บริการลูกค้าผ่านตัวแทนธนาคาร(แบงก์กิ้งเอเย่นต์) คือ ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ซึ่งจะให้บริการในไตรมาส 2 ปี 2562 เพื่อเป็นการเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าที่อยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด นอกจากนี้ ธนาคารให้ความสำคัญกับการป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์ จึงได้พัฒนาระบบรักษาความปลอดภัย(ไซเบอร์ซีเคียวริตี้) ได้ลงทุนและพัฒนาระบบไอทีเพื่อรองรับการทำธุรกรรมออนไลน์ที่เพิ่มมากขึ้น ให้มีความปลอดภัยยิ่งขึ้น
นางศศิธร กล่าวว่า ส่วนแนวโน้มรายได้ค่าธรรมเนียม (ค่าฟี) ของธนาคารในปีนี้ คาดว่ายังสามารถเติบโตต่อเนื่องจากช่วงปีที่ผ่านมา เนื่องจากธนาคารเพิ่มธุรกิจเทรดไฟแนนซ์เข้ามาอีกช่องทาง นอกเหนือจากรายได้ค่าฟีที่มาจากการขายกองทุนรวมและการขายประกันผ่านธนาคาร(แบงก์แอสชัวร์รันส์)
เกาะกระแสเศรษฐกิจใกล้ตัว กับมติชน คลิ๊ก!
