เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่(ศม.) กล่าวถึงการจัดระเบียบร้านค้าริมทางใน กทม.ส่งผลกระทบต่อคนไทย 4 ล้านคนว่า กทม.ของประเทศไทย ได้รับการโหวตและยกย่องกันว่า เป็นเป้าหมายการเดินทางท่องเที่ยวที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยซีเอ็นเอ็นวิจัยออกมา โดยระบุว่า กรุงเทพฯเป็นเมืองแห่งสวรรค์ในการหาอาหารกินข้างทาง ฝรั่งรู้สึกถึงราคาถูก มีอาหารให้ชิมสารพัด ปรุงกันสดๆ นี่คือเสน่ห์อันดับ 1 ของกรุงเทพมหานครประเทศไทย ที่ดังออกไปทั่วโลก เขาเรียกสตรีตฟู้ด หรืออาหารตามสั่ง แต่ขณะนี้ได้ถูกกวาดทิ้งไปหมด เนื่องจากการจัดระเบียบ โดยถามว่าดีหรือไม่ ขอบอกว่าดี เพราะการจัดระเบียบการเดินถนนหนทาง ต้องสะอาด ปลอดภัย มอเตอร์ไซค์ไม่ควรที่จะขึ้นไปวิ่งอยู่บนทางเท้า รวมถึงร้านอาหาร แต่การกวาดทิ้งนั้นคืออะไร 1.กวาดเอาเสน่ห์อันนี้ของ กทม.ทิ้งไปเกือบหมดเลย 2.ทำให้คน 8 แสนกว่าครัวเรือนเดือดร้อน ทั้งนี้เห็นด้วยกับการจัดระเบียบทางเท้า แต่ต้องหาสถานที่ให้เขาได้อยู่ ได้ทำกิน เช่น บริเวณข้าง รพ.จุฬาฯ แผนกฉุกเฉิน รถพยาบาลฉุกเฉินเปิดไซเรนก็ต้องพาผู้ป่วยเข้าตึกอุบัติเหตุ ปรากฏว่าร้านอาหารไปตั้งอยู่เต็มไปหมดเลยที่ฟุตปาธ ในที่สุดก็มีการจัดระเบียบ เขาก็ย้ายให้ไปอยู่ฝั่งตรงข้าม ข้างสวนลุมฯ อาหารก็ได้ขายเหมือนเดิม อันนี้เป็นตัวอย่างที่ดี
“แต่บางครั้งเขาถามว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะทุกครั้งในช่วงเวลาพัก ถ้าเขาอยากทานข้าวเหนียว ไก่ย่าง ส้มตำ อะไรก็แล้วแต่ อาหารตามสั่ง ก็สามารถเดินออกมาหน้าร้าน ข้างฟุตปาธมันก็พอมี วันหนึ่งถูกกวาดทิ้งหมดเลย คนที่เคยใช้บริการจะให้ทำยังไง ก็ต้องเดินไปที่ร้านสะดวกซื้อ นอกจากจะไกลแล้ว เขาต้องกินอยู่ในฟอยล์ต่างๆ คิดหรือไม่ว่าเขาเดือดร้อน เพราะฉะนั้น ถ้าเราจะเลิกอย่างหนึ่ง เราต้องมีอย่างหนึ่งมาทดแทน ถ้าเราจะไม่ให้ขายตรงนี้ ก็ต้องขยับมาตรงนี้ ต้องไปจัดบริเวณ สิทธิความเป็นคนไทยต้องเท่าเทียมกัน เขามีสิทธิจะทำมาหากินบนผืนแผนดินไทยนี้เหมือนกัน การผูกขาด การครอบงำ และการเอื้อกับนายทุนบางกลุ่ม อันนี้ไม่อยู่ในความคิดของระบบเศรษฐกิจใหม่” นายมิ่งขวัญกล่าว
