เดินหน้าเสริมศักยภาพเยาวชน ‘คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์’ มอบ 100 สนามระดับโลก

ด้วยความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมศักยภาพและพัฒนาเด็กไทยโดยเฉพาะด้านกีฬา คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ ผุดไอเดีย 100 สนามฟุตบอล สร้างพลังเยาวชนไทย โครงการจากความมุ่งมั่นที่ต้องการให้เยาวชนไทยทั่วประเทศมีโอกาสได้เล่นฟุตบอลบนสนามที่ดี ปลอดภัย และมีมาตรฐานระดับโลก

หลังคัดเลือกโรงเรียนและชุมชนเป้าหมายจากทั่วประเทศ วันนี้ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ สร้างสนามฟุตบอลหญ้าเทียม พร้อมส่งมอบไปแล้วกว่า 40 สนาม นับได้ว่าเดินมาถึงครึ่งทางแล้ว และยังคงมุ่งมั่นสานต่อเป้าหมาย คือการส่งมอบสนามอย่างต่อเนื่องเพิ่มอีก 20 แห่งในปีนี้ และจะครบทั้ง 100 แห่ง ภายในปี 2565

โรงเรียนท่าวังผาพิทยาคม อ.ท่าวังผา จ.น่าน คือหนึ่งในโรงเรียนที่ได้รับคัดเลือก เพิ่งรับมอบสนามฟุตบอลหญ้าเทียมขนาด 7 คนเล่น พื้นที่ประมาณ 33×53 เมตร เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยมี        วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เอมอร ศรีวัฒนประภา ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ วิบูรณ์ แววบัณฑิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน และ ดร.นภาพร แสงนิล ผู้อำนวยการโรงเรียนท่าวังผาพิทยาคม ร่วมในพิธีเปิด พร้อมมอบลูกฟุตบอลให้แก่สถานศึกษาในภาคเหนือ ได้แก่ โรงเรียนมัธยมศึกษา จำนวน 30 แห่ง และโรงเรียนประถมศึกษาอีก 20 แห่ง

งานนี้มีนักเรียนโรงเรียนท่าวังผาพิทยาคม แสดงการตีกลองปูจา และฟ้อนล่องน่าน ต้อนรับตามแบบฉบับล้านนาอย่างอบอุ่น

Advertisement
สนามฟุตบอลหญ้าเทียม ภายใต้โครงการ “100 สนามฟุตบอล สร้างพลังเยาวชนไทย”

สำหรับจังหวัดน่านเป็นจังหวัดเล็กๆ ติดล้านนาตะวันออก ดินแดนที่มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชนอย่างรอบด้าน ดังวิสัยทัศน์ที่ว่า “เมืองแห่งความสุข เศรษฐกิจสร้างสรรค์ ธรรมชาติสมบูรณ์ การเกษตรมั่งคั่ง ชุมชนเข้มแข็ง และการท่องเที่ยวยั่งยืน”

ด้วยสภาพทางภูมิศาสตร์และความหลากหลายของกลุ่มชาติพันธุ์ ผสานเป็นเสน่ห์ที่สะท้อนความมั่นคงทางด้านวัฒนธรรมของเมืองน่าน จนเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวอย่างกว้างขวาง

Advertisement

โดยในส่วนของพื้นที่ อ.ท่าวังผา เป็นแหล่งเกษตรกรรม มีชุมชนเข้มแข็งด้วยวัฒนธรรมที่งดงาม มีความโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์ในเรื่องของประเพณีวัฒนธรรม โดยเฉพาะการตีกลองปูจา ซึ่งโรงเรียนท่าวังผาพิทยาคม อนุรักษ์สืบทอดมาโดยตลอด อีกทั้งยังมีชื่อเสียงทางด้านกีฬาทั้งในระดับประเทศและระดับพื้นที่ด้วย

รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ กล่าวว่า การทำสนามกีฬาที่มีมาตรฐานระดับสากลในพื้นที่ต่างๆ ย่อมทำให้เกิดความตื่นตัวในเรื่องการยกระดับมาตรฐานทางด้านกีฬา การได้เห็นความร่วมมือระหว่างภาคเอกชน รัฐบาล และชุมชนในการทำกิจกรรมร่วมกัน ย่อมเป็นเรื่องที่งดงามเสมอ ดังนั้น การที่กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้สร้างสนามกีฬาที่ อ.ท่าวังผา จ.น่าน เป็นลำดับที่ 24 จะทำให้เกิดการกระจายตัว ทำให้พื้นที่ต่างๆ ที่แม้จะอยู่ห่างไกลสามารถเข้าถึงสนามกีฬามาตรฐานระดับสากลได้

“กีฬาไม่ใช่แค่การแข่งขัน และเหรียญก็ไม่ใช่สาระสำคัญที่สุดของการเล่นกีฬา แต่กีฬาคือพื้นที่ทางกิจกรรมที่ทำให้ผู้คนกลุ่มต่างๆ ได้มามีปฏิสัมพันธ์กัน ทำให้ตัวคนที่ได้ซ้อมได้รักษาวินัย ทำให้ภูมิใจในการสร้างทักษะให้กับตัวเอง และมีความสามารถที่จะสร้างทีมต่างๆ ขึ้นมาได้”

ด้าน วิบูรณ์ แววบัณฑิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เปิดเผยความรู้สึกในฐานะเจ้าบ้านว่า การที่โรงเรียนได้รับการสนับสนุนสนามหญ้าเทียมภายใต้โครงการ “คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย” นับเป็นโอกาสอันดียิ่งที่เยาวชน อ.ท่าวังผา และใกล้เคียง รวมถึงประชาชนในชุมชนจะได้มีพื้นที่สำหรับออกกำลังกาย เสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง มีกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ทำในช่วงเวลาว่าง ทำให้ห่างไกลยาเสพติดจากการรวมกลุ่มกันมาเล่นฟุตบอลในสนามฟุตบอลหญ้าเทียมแห่งนี้ ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างความสามัคคี ก่อเกิดชุมชนที่เข้มแข็ง”

ขณะที่ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เอมอร ศรีวัฒนประภา เผยความตั้งใจด้วยว่า กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เป็นบริษัทของคนไทยที่เชื่อมั่นในศักยภาพของคนไทย จึงตั้งใจที่จะทำโครงการเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง โดยโครงการ 100 สนามฟุตบอล สร้างพลังเยาวชนไทย เป็นหนึ่งในกิจกรรมภายใต้ “คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย” เพื่อสร้างเสริมสิ่งดีๆ ที่มีประโยชน์ให้กับสังคมไทย โดยเฉพาะกับเยาวชนซึ่งถือเป็นกำลังสำคัญในการช่วยพัฒนาและขับเคลื่อนประเทศไทยให้เจริญก้าวหน้าในอนาคต

“สนามฟุตบอลหญ้าเทียมขนาด 7 คนเล่นนี้ มีมาตรฐานระดับสากล ซึ่งทางคิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ ได้มอบให้กับโรงเรียนท่าวังผาพิทยาคมเพื่อให้เด็กๆ ทั้งที่นี่และชุมชนใกล้เคียงได้ใช้ออกกำลังกายและพัฒนาทักษะในการเล่นกีฬาฟุตบอล นอกจากนี้ ยังได้นำลูกฟุตบอลมามอบให้กับโรงเรียนมัธยมและโรงเรียนประถมศึกษาในเขตพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อให้เด็กๆ ได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และส่งเสริมสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง”

ฟากฝั่ง ดร.นภาพร แสงนิล ผอ.โรงเรียนท่าวังผาพิทยาคม ภายหลังกล่าวขอบคุณก็ยังเพิ่มเติมด้วยว่า โรงเรียนท่าวังผาพิทยาคมเป็นโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาที่มีเป้าหมายในการพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนสู่ความเป็นเลิศในทุกๆ ด้าน ผ่านการจัดหลักสูตรและการเรียนการสอนที่หลากหลาย ทั้งวิชาการ ศิลปะ ดนตรี กีฬา และอาชีพ โดยเฉพาะศักยภาพในด้านกีฬาที่นักเรียนสามารถพัฒนาจนเป็นที่ประจักษ์ทั้งในระดับพื้นที่ ระดับภาค และระดับประเทศ

“ถือเป็นปีประวัติศาสตร์ของชาวท่าวังผาและโรงเรียนท่าวังผาพิทยาคม ที่ได้รับการสนับสนุนการจัดสร้างสนามฟุตบอลหญ้าเทียมระดับมาตรฐานสากล พร้อมทั้งลูกฟุตบอลจากกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ การมอบสนามฟุตบอลให้กับโรงเรียนจะเป็นประโยชน์ต่อเยาวชนทั้งในชุมชน อ.ท่าวังผา และ จ.น่าน ในการพัฒนาศักยภาพด้านกีฬา เสริมสร้างสุขภาพ สร้างความสามัคคี และยังจะเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างนักกีฬาเยาวชนต่อไป”

ดร.นภาพรยังฝากถึงโรงเรียนท่าวังผาพิทยาคมและชุมชนบริเวณใกล้เคียง ให้ช่วยกันรักษาสนามฟุตบอลเสมือนเป็นสมบัติของโรงเรียนและของชุมชน เพื่อก่อเกิดชุมชนที่เข้มแข็งและยั่งยืน

น.ส.ณัฐธิดา อุ่นใจ

ในมุมของนักฟุตซอลหญิงเยาวชนจังหวัดน่าน น.ส.ณัฐธิดา อุ่นใจ อายุ 17 ปี กล่าวว่า ปกติตนเองและเพื่อนๆ ในทีม มักจะมาซ้อมฟุตซอลที่สนามหญ้าของโรงเรียนท่าวังผาพิทยาคม แต่สถานที่ไม่เพียงพอ เนื่องจากมีนักฟุตซอลหลายรุ่นมาซ้อมในช่วงเวลาเดียวกัน เมื่อคิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ ได้สานฝันมอบโอกาสดีๆ สร้างสนามฟุตบอลหญ้าเทียมให้กับพวกเราชาวจังหวัดน่าน ก็รู้สึกดีใจมาก และจะตั้งใจฝึกซ้อมเพื่อเป็นตัวแทนนักฟุตซอลหญิงเยาวชนของภาคเหนือไปแข่งขันงานกีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งที่ 35 จังหวัดบุรีรัมย์ และหวังเป็นแชมป์ระดับประเทศให้ได้

นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ เปิดสนามฟุตบอลเพื่อส่งมอบให้ ร.ร.ท่าวังผาพิทยาคม

ในงานนี้ยังได้รับเกียรติจาก รมต.วีรศักดิ์ ร่วมเตะฟุตบอลเป็นการเปิดสนาม ก่อนจะประเดิมด้วยนัดแรกสุดพิเศษโดยสองพระเอกฮอต อย่าง มาริโอ้ เมาเร่อ และ อเล็กซ์ เรนเดลล์ ที่นำทัพดวลกับทีม ออลสตาร์ ท่าวังผา นำโดยนักเตะไฟแรงชุดเยาวชนโรงเรียนท่าวังผาพิทยาคม ที่เรียกได้ว่าเป็นการดวลแข้งกันอย่างดุเดือดท่ามกลางอากาศร้อนระอุ

แต่ถึงอย่างนั้นสองหนุ่มก็ไม่หวั่นไหว เพราะได้ซึมซับแรงเชียร์แรงใจจากน้องๆ โรงเรียนท่าวังผาฯ และแฟนคลับละแวกใกล้เคียงที่เกาะแน่นติดขอบสนามกันแทบจะไม่เว้นช่องไฟ

มาริโอ้หยิบรองเท้าบอลมาปัดฝุ่นอีกครั้ง ทางด้านอเล็กซ์ได้เวลาโชว์สกิลที่สะสมมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วัยเด็ก ครึ่งแรกมาริโอ้ต่อให้อเล็กซ์นำไปก่อน 2 ประตู เนื่องจากรองเท้ามีปัญหา ก่อนจะคว้ารองเท้าคู่ใหม่จากน้ำใจของนักกีฬาสำรองรอบสนาม จนพาทีมตามอเล็กซ์ไปได้ในครึ่งหลัง และจบที่ 3 ประตู ต่อ 3

“วันนี้ได้มาเตะฟุตบอลบนสนามที่คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ ได้สร้างไว้ที่ จ.น่าน รู้สึกประทับใจมาก ดีใจแทนน้องๆ ที่ จ.น่าน ด้วยที่มีสนามดีๆ แบบนี้” มาริโอ้เผย

เมื่อถามถึงสภาพของสนาม พี่โอ้ของน้องๆ ตอบกลับทันควันว่า ดีมากๆ “ยังคุยกับอเล็กซ์อยู่เลยว่าสนามนุ่มมาก ดีมาก ยกเว้นแดด แรงไปนิดนึง” (หัวเราะ)

มาริโอ้ยังแสดงความคิดเห็นด้วยว่า นี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับทุกคนที่จะได้มีสนามฟุตบอล มีลูกบอลดีๆ ไว้สำหรับเล่น เพื่อพัฒนาศักยภาพด้านการกีฬา ทำให้น้องๆ วัยรุ่นได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ห่างไกลยาเสพติด และได้สุขภาพที่ดี

ด้านอเล็กซ์ที่ไม่ได้มาเยือนจังหวัดน่านนานแล้ว บอกว่า รู้สึกประทับใจกับการกลับมาในครั้งนี้ เพราะได้รับการต้อนรับจากคนพื้นที่อย่างอุ่นหนาฝาคั่ง

โดยอเล็กซ์เล่าด้วยว่า ตัวเองเป็นคนที่ชอบกีฬาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว เพราะได้ทั้งสังคม ได้ร่างกายที่ดี ได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ทั้งยังสร้างโอกาสในชีวิตด้วย

“การที่คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ มาสร้างสนามฟุตบอลที่นี่ ไม่ใช่แค่ให้คนมาเตะบอล แต่ยังเป็นการให้โอกาสกับคนที่ชอบกีฬาฟุตบอลได้มามีส่วนร่วมเล่นฟุตบอลบนสนามดีๆ แบบนี้ และยังเป็นการส่งเสริมทักษะและโอกาสชีวิตให้กับคนที่มีความฝันอยากเป็นนักกีฬาฟุตบอล เป็นจุดเริ่มต้นที่ในอีก 10-20 ปีข้างหน้า เรามองกลับมา แล้วอาจจะเห็นว่าเด็กคนนึงได้ไปบอลโลกจากจุดเริ่มต้นที่นี่

“ในความรู้สึกผมก็คิดว่าเป็นโปรเจ็กต์ที่ดีมาก เชื่อว่านี่คือการมองระยะยาวที่จะส่งผลดีให้กับเยาวชนและคนในพื้นที่ ทำให้ชุมชนเข้มแข็งขึ้น ซึ่งจะทำให้เขารักและหวงแหนบ้านเกิดของตัวเองมากขึ้น” อเล็กซ์ทิ้งท้าย

เหนืออื่นใด การส่งมอบสนามฟุตบอลมาตรฐานระดับสากลให้เด็กๆ ได้ใช้ จะส่งเสริมให้เกิดความรัก ความสามัคคี และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของเยาวชนไทย

#KingpowerThaipowerพลังคนไทย #WeBelieveInThaiPower #เชื่อในพลังคนไทย #SportPower

 

ทีมออลสตาร์ ท่าวังผา

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image