‘จ๊อบไทย’ เผย 3 อาชีพสายเทคโนโลยีมาแรง!! รับยุคบิ๊กดาต้า

นางสาวแสงเดือน ตั้งธรรมสถิตย์ ผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้าผู้บริหารด้านปฏิบัติการจ๊อบไทย เปิดเผยว่า 3 อาชีพสายเทคโนโลยีที่กำลังมาแรง และสอดรับกับยุคบิ๊กดาต้า ประกอบด้วย

1.นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล (ดาต้า ไซแอนทิสต์) เป็นหนึ่งในอาชีพมาแรงของโลกการทำงานสมัยใหม่ ซึ่งอาชีพนี้ มีนิยามอาชีพที่ค่อนข้างกว้าง บางคนอาจจะดูเรื่องวิเคราะห์อย่างเดียว บางคนต้องนำข้อมูลไปวิเคราะห์ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ แต่โดยรวมแล้วก็คือ การนำข้อมูลมาวิเคราะห์ เพื่อใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้ดีขึ้น สำหรับอาชีพนี้ค่อนข้างเปิดกว้าง โดยผู้ที่จะเข้ามาทำอาชีพนี้ได้นั้น ไม่ได้ระบุเจาะจงว่าต้องจบสาขาอะไร แต่ส่วนใหญ่แล้วจะจบมาทางด้านวิทยาศาสตร์ เพราะมีทักษะทางด้านการวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับข้อมูลอื่นได้ หรือจบมาจากสาขาที่เกี่ยวกับสถิติก็ได้เช่นกัน สำหรับผู้ที่สนใจทำงานในสายนี้ต้องมีทักษะสำคัญ ได้แก่

  • ทักษะทางตรง ได้แก่ 1.การนำเสนอข้อมูลเชิงภาพ เมื่อวิเคราะห์ข้อมูลมาแล้ว ต้องสามารถถ่ายทอดข้อมูลเหล่านั้นให้กับคนที่ต้องการจะสื่อสารด้วยเห็นภาพมากที่สุด ซึ่งอาจจะทำออกมาเป็นรูปแบบของกราฟหรือภาพ ซึ่งสิ่งที่สำคัญคือต้องรู้ว่ากราฟหรือภาพแบบไหนเหมาะกับข้อมูลประเภทใดเพื่อทำให้คนทั่วไปเข้าใจมากที่สุด และ 2.การเขียนโค้ด ทักษะนี้ถือเป็นทักษะสำคัญมากสำหรับอาชีพนี้ เพราะต้องใช้ในการสร้างโมเดลให้สามารถเก็บและดึงข้อมูลตามที่ต้องการเพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปใช้ในการวิเคราะห์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ในรูปแบบต่างๆ
  • ทักษะทางอ้อม ได้แก่ 1.ทักษะด้านการสื่อสาร นอกจากการนำเสนอข้อมูลเชิงภาพออกมาในรูปแบบต่างๆ แล้ว ต้องมีทักษะในการสื่อสารข้อมูลเหล่านั้นให้คนทั่วไปที่ไม่มีความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ข้อมูล สามารถเข้าใจได้ และ 2.ความรู้ด้านธุรกิจ เป็นทักษะที่ช่วยให้เข้าใจเป้าหมายหรือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ทำนั้นว่ามีผลตอบรับเป็นอย่างไร และจะเพิ่มผลลัพธ์ให้กับธุรกิจได้อย่างไร

2.นักภาษาศาสตร์คอมพิวเตอร์ เป็นอาชีพที่ต้องนำทฤษฎีทางภาษาศาสตร์มารวมกับวิทยาการคอมพิวเตอร์ หากพูดให้เข้าใจถึงอาชีพนี้อย่างง่าย ๆ ก็คือ การทำให้คอมพิวเตอร์สามารถวิเคราะห์ข้อมูลและเข้าใจภาษา และทำหน้าที่ทางด้านภาษาต่าง ๆ แทนมนุษย์ได้นั่นเอง เช่น เครื่องแปลภาษาอัตโนมัติ หรือหุ่นยนต์นักสนทนา ที่สามารถรับคำสั่งจากมนุษย์ได้ เป็นต้น ถือเป็นการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้การทำงานเป็นรูปแบบอัตโนมัติมากขึ้น เพื่อลดขั้นตอนการทำงานของมนุษย์ อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ที่จะมาทำงานในสายนี้ต้องมีทักษะสำคัญที่ควรรู้ ดังนี้

Advertisement

  • ทักษะทางตรง ได้แก่ 1.ทักษะทางด้านภาษาศาสตร์ การทำให้คอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจภาษาและทำหน้าที่ทางด้านภาษาต่างๆ แทนมนุษย์ได้นั้นจำเป็นต้องใช้ทักษะนี้ เพราะข้อมูลทางภาษามีความพิเศษของตัวเอง จึงต้องใช้ทักษะในการวิเคราะห์ที่แตกต่างกันออกไป เช่น การแปลภาษาอัตโนมัติ ให้ความหมายออกมาในรูปแบบต่างๆ ตามที่ผู้ใช้งานต้องการ หรือโปรแกรมในการค้นหา ที่จะเห็นได้ว่า ทุกวันนี้เราสามารถพิมพ์คำถามตามที่ต้องการลงไปได้เลย ซึ่งระบบก็สามารถเข้าใจและส่งคำตอบกลับมาให้เราได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ล้วนต้องใช้ทักษะทางภาษาศาสตร์ทั้งสิ้น2.การเขียนโปรแกรม ทักษะนี้จะทำให้คอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจได้ว่ามนุษย์ต้องการอะไร เช่น การทำให้หุ่นยนต์นักสนทนา สามารถตอบคำถามเราได้ โดยที่เข้าใจได้ว่านี่คือคำถามชนิดใด จะไปหาคำตอบมาได้จากที่ไหน หรือสิ่งที่ต้องการเป็นประโยคคำสั่งหรือไม่ ซึ่งในปัจจุบันหุ่นยนต์นักสนทนา สามารถรับคำสั่งจากมนุษย์ได้ไม่ว่าจะเป็นการเปิดไฟ ปรับแอร์ เปิดตู้เย็น เป็นต้น และ 3.ทักษะทางด้านสถิติ เป็นงานที่ต้องอาศัยพื้นฐานทางด้านคณิตศาสตร์และสถิติในการศึกษาข้อมูลทางภาษาศาสตร์ที่มีจำนวนมาก เช่น สถิติการใช้คำและประโยคเพื่อวิเคราะห์ความเป็นธรรมชาติในการใช้งานและความถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ การใช้ความน่าจะเป็นในการแก้คำกำกวม ซึ่งทักษะเชิงคณิตศาสตร์และสถิติจะช่วยให้เข้าใจถึงกลไกของภาษาหรือเข้าใจธรรมชาติของภาษาได้ดีขึ้น
  • ทักษะทางอ้อม ได้แก่ การคิดวิเคราะห์และแก้ไขปัญหา – ต้องอาศัยทักษะนี้ในการวิเคราะห์ข้อมูลทางภาษา เพื่อพัฒนาให้คอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจภาษาและวิเคราะห์ข้อมูลทางภาษาในลักษณะต่าง ๆ ได้ดีขึ้น เช่น การพัฒนาเครื่องแปลภาษาอัตโนมัติ อาจจะวิเคราะห์ว่าความหมายที่ต้องแสดงผลออกมานั้นจะเป็นรูปแบบไหน ต้องใช้โมเดลอะไร เป็นต้น

3.นักพัฒนาด้านปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) เมื่อเอไอ หรือเทคโนโลยีด้านปัญญาประดิษฐ์ เริ่มได้รับความนิยมในโลกธุรกิจและยังคงได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้อาชีพวิศวกรด้านปัญญาประดิษฐ์ มีความต้องการเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งวิศวกรด้านปัญญาประดิษฐ์ คือ ผู้ที่สามารถนำเอาศาสตร์ด้านปัญญาประดิษฐ์มาประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาธุรกิจหรือผลิตภัณฑ์ โดยการเขียนโปรแกรมหรือชุดคำสั่งด้วยเทคนิคต่างๆ เพื่อทำให้ปัญญาประดิษฐ์สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง และสามารถตัดสินใจในเรื่องที่ซับซ้อนได้อย่างถูกต้องแม่นยำขึ้นเรื่อยๆ สำหรับผู้ที่สนใจทำงานในสายนี้ต้องมีทักษะสำคัญ ได้แก่

Advertisement
  • ทักษะทางตรง ได้แก่ 1.การเขียนโปรแกรมและความรู้ด้านภาษาคอมพิวเตอร์ มีความรู้ด้านการเขียนโปรแกรมด้วยภาษาที่นิยมทางด้านเอไอ เพื่อสร้างและทดสอบแบบจำลองการเรียนรู้ของเอไอ ให้สามารถเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของผู้ใช้งานได้ดีขึ้น และ 2.คณิตศาสตร์ประยุกต์ เนื่องจากคณิตศาสตร์มีบทบาทสำคัญอย่างมากกับปัญญาประดิษฐ์ ดังนั้น จึงต้องมีความสามารถในการบริหารจัดการข้อมูลที่มีอยู่เป็นจำนวนมากและสามารถนำความรู้ทางด้านคณิตศาสตร์ เช่น ความน่าจะเป็น สถิติ แคลคูลัส มาประยุกต์ใช้กับข้อมูลเหล่านั้น เพื่อวิเคราะห์และออกแบบระบบ
  • ทักษะทางอ้อม ได้แก่ 1.ทักษะการสื่อสาร การสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญกับทุกอาชีพถึงแม้ว่าสายงานนี้จะเน้นการทำงานในเชิงเทคนิคแต่ก็ต้องมีการสื่อสารกันทั้งภายในทีมและกับทีมอื่นๆ เพื่อให้เข้าใจเกี่ยวกับข้อมูลโดยเฉพาะข้อมูลเชิงเทคนิค และ 2.เรียนรู้เทคโนโลยีอยู่เสมอ ต้องมีความรู้ ความเข้าใจ และอัปเดตเทรนด์เกี่ยวกับเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อก้าวให้ทันการเปลี่ยนแปลงและสามารถนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม

นางสาวแสงเดือน กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม 3 อาชีพสายเทคโนโลยีดังกล่าว เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเทรนด์อาชีพที่กำลังมาใหม่ในยุคแห่งเทคโนโลยีและข้อมูล สำหรับผู้ที่มองเห็นโอกาส และอยากผันตัวมาสู่สายอาชีพเหล่านี้ ก็ควรเริ่มฝึกฝนทักษะที่จำเป็น เพื่อสร้างโอกาสและพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลกการทำงาน

เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว

เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image