‘อภิสิทธิ์’ ลงพื้นที่หนองแขม มั่นใจ ปชช.ตอบรับนโยบาย เชื่อ จนท.ไม่ปล่อยให้ปลุกระดม หลังทษช.ตั้งกลุ่มเคลื่อนไหว

“อภิสิทธิ์” ลงพื้นที่หาเสียงหนองแขม มั่นใจ ปชช.ตอบรับนโยบาย ปชป. ชี้ “บิ๊กตู่” ลงพื้นที่ไม่ใช่เหตุบังเอิญ เชื่อ จนท.ไม่ปล่อยให้ปลุกระดม หลังอดีตแกนนำ ทษช.ตั้งกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง

เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2562 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมคณะ ลงพื้นที่เขตหนองแขม ขึ้นรถแห่และเดินรณรงค์เชิญชวนให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคมนี้ พร้อมขอคะแนนเสียงสนับสนุนพรรค ปชป. และนายสามารถ ม่วงศิริ ผู้สมัคร ส.ส.ประชาธิปัตย์ หมายเลข 8 จากนั้นให้สัมภาษณ์ว่า จากการลงพื้นที่ทุกภาคทั่วประเทศพบว่าประชาชนให้การตอบรับพรรค ปชป.เป็นอย่างดี ซึ่งประชาชนให้ความสนใจนโยบายของพรรค โดยเฉพาะการเร่งฟื้นเศรษฐกิจด้วยการเพิ่มกำลังซื้อ ทั้งในภาคส่วนเกษตรกรและผู้ใช้แรงงาน รวมถึงประชาชนต้องการเห็นบ้านเมืองเดินไปข้างหน้า

“สำหรับช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง พรรค ปชป.ได้เน้นย้ำทั้งนโยบายและจุดยืนทางการเมือง เพราะนโยบายเป็นสิ่งที่ประชาชนรอคอย เพื่อให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกทั้งประโยชน์ของประชาชนเองและประโยชน์ของประเทศ แต่จุดยืนทางการเมืองก็สำคัญ เพราะหากนโยบายดีแต่บ้านเมืองวนกลับมาสู่จุดเดิมก็ไม่มีประโยชน์ พรรค ปชป.จึงกำหนดจุดยืนที่ชัดเจนว่าจะพาประเทศพ้นออกจากปัญหาที่ผ่านมา ซึ่งสถานการณ์ขณะนี้ตนเองก็ไม่ได้มีความเป็นห่วงในเรื่องใดเพราะทุกอย่างเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง หลายเรื่องที่คนกังวลก็คลี่คลายลงไปในระดับหนึ่ง จึงอยากให้ทุกฝ่ายเดินหน้าเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง” หัวหน้า ปชป.กล่าว

เมื่อถามถึงการลงพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า สอดคล้องกับการลงพื้นที่หาเสียงของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มองว่าอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ส่วนจะเกิดความได้เปรียบเสียเปรียบทางการเมืองหรือไม่นั้น หากอยู่ในกรอบของกฎหมายก็ไม่มีปัญหา

Advertisement

เมื่อถามว่า ข้อเสนอของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) เรื่องแนวทางการปรองดองที่ออกมาในขณะนี้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยอมรับว่ามีความหนักใจ ถ้าเรายังไม่เชื่อว่าปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นปัญหาจริง และการพยายามรื้อฟื้นบางเรื่องขึ้นมาก็เคยเห็นผลมาแล้วเมื่อปี 2556-2557 และเป็นที่มาของการปฏิวัติรัฐประหาร ซึ่งในความเป็นจริงขณะนี้กระบวนการยุติธรรมก็ดำเนินอยู่

และหากมีหลักฐานหรือมีสิ่งที่บ่งบอกอย่างชัดเจนว่า กระบวนการยุติธรรมไม่ทำงานอย่างที่ควรจะเป็นก็สามารถใช้สิทธิตามกฎหมายในการฟ้องร้องได้อยู่แล้ว แต่ไม่ควรนำเรื่องของการเมืองมาปะปนกัน ส่วนแนวทางนี้จะเป็นทางออกของประเทศหรือไม่นั้น มองว่า เราเห็นตัวอย่างจากในอดีตแล้วว่าผลของ ความพยายามที่จะให้มีการนิรโทษกรรมนั้นเป็นอย่างไร ซึ่งเป็นที่มาที่ทำให้เกิดปัญหาอยู่ทุกวันนี้

เมื่อถามถึงกรณีที่อดีตแกนนำพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ประกาศทำกิจกรรมทางการเมืองภายใต้กลุ่มภารกิจ “ก้าวต่อไปเพื่อประชาธิปไตย” โดยจะเดินสายชี้แจงกับประชาชนเพื่อต่อต้านการสืบทอดอำนาจในทุกภาคทั่วประเทศ ทั้งที่ ทษช.ถูกยุบไปแล้ว นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เขาคงไม่สามารถดำเนินงานทางการเมืองในรูปแบบของพรรคการเมืองได้ แต่สามารถแสดงความคิดเห็นได้ ซึ่งไม่กังวลว่าจะมีการปลุกระดมมวลชน เพราะเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายและคงไม่มีใครปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้น และอดีตแกนนำจะแสดงจุดยืนทางการเมืองอย่างไรก็เป็นสิ่งที่สามารถทำได้

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image