“สุวรรณภูมิ” คุณค่า ยิ่งกว่า ยิ่งใหญ่ เชื่อมร้อยโลก(ชมคลิป)

 ถ้าพูดถึง สุวรรณภูมิ หลายคนจะต้องคิดไปถึง สนามบิน หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ
แต่ในบริบทอันกว้างใหญ่ และการเล่าขานแล้ว สุวรรณภูมิ นั้นมีความยิ่งใหญ่และเต็มไปด้วยนานาอารยธรรมที่เชื่อมร้อย จากพื้นที่หนึ่ง สู่พื้นที่หนึ่งอย่างเหลือเชื่อ

สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ จิสด้า กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) ได้ทำโครงการภูมิอารยธรรมสุวรรณภูมิ ด้วยเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ ขึ้นมา โดยได้ใช้เทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ มาประมวลผลการศึกษา ที่เกี่ยวกับการค้นพบดินแดนสุวรรณภูมิ เพื่อบอกว่า สุวรรณภูมินั้น ไม่ได้เป็นเพียงดินแดนในจินตนาการที่เลื่อนลอย แต่มีความเชื่อมโยง และมีอยู่จริง โดยครอบคลุมพื้นที่หลายส่วนของโลก

นายชญาทัศน์ เนียมแสวง ที่ปรึกษาโครงการ ภูมิอารยธรรมสุวรรณภูมิ ด้วยเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ กล่าวว่า โดยหลักฐานทางโบราณคดีสุวรรณภูมิ นั้นได้พัฒนามาก่อนบันทึกประวัติศาสตร์หลายพันปี

“โดยเมื่อราว 2,000 ปีก่อน มีที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมด ที่เรียกว่า อินโดจีน ระหว่าง อินเดีย กับจีน ตั้งแต่เขตลุ่มน้ำพรหมบุตร ผ่านดินแดนเมียนมา มอญ ไทย ไปตลอดแหลมมลายู ไปถึงเขตแม่น้ำโขง รวมถึงในดินแดนยูนนาน รวมทั้งมีข้อเสนอในชื่อโลกแห่งสุวรรณภูมิที่มีภาคพื้นดินเป็นศูนย์กลางแวดล้อมด้วยอ่าวเบงกอล และอ่าวเมาะตะมะ แหลมมลายู หมู่เกาะอินโดนีเซีย และทะเลจีนใต้ โดยมีการกำหนดอายุว่า อยู่ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 2 ซึ่งสัมพันธ์กับช่วงเวลาของ สุวรรณภูมิ แต่ยังขาดหลักฐานสำคัญ จนกว่าจะพบหลักฐานใหม่ หรือมีการตีความหลักฐานเก่าด้วยวิธีใหม่ๆในอนาคต ทั้งนี้ในการศึกษาที่ผ่านมา พบหลักฐานในช่วงอายุราวพุทธศตวรรษที่ 7-14 เช่น พระธรรมมีจารึกคาถาธรรม จารึกเมืองซับจำปา หลักฐานโบราณคดีด้านเครื่องประดับ ทำด้วยหิน แก้ว เครื่องประดับ และเศียรพระพุทธรูป ที่ทำจากทองคำ เป็นต้น”นายชญาทัศน์ กล่าว

Advertisement

ในวงวิชาการต่างประเทศ เชื่อว่า สุวรรณภูมิ มีมาแล้วเมื่อ 2,000 ปีก่อน โดยพบในหลายชื่อที่เกี่ยวพันกับทอง คือ สุวรรณ (อินเดีย) Chryse (กรีก) Aureaus (โรมัน) จิน (จีน) โดยอาจจะเป็นเกาะ ทวีป หรือเมือง ที่มีความมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์ด้วยสิ่งมีค่า หายากจากแผ่นดิน ท้องทะเล และที่นำมาจากถิ่นอื่น เช่น ทองคำ ของป่า ของจากทะเล และผ้า ตั้งอยู่เลยจากกลุ่มแม่น้ำคงคา ก่อนถึงจีน อาจแบ่งได้เป็น 2 ขอบเขต คือ ภาคพื้นแผ่นดิน กับคาบมหาสมุทร และหมู่เกาะ ที่เรียกคาบเกี่ยวกันว่าสุวรรณภูมิ สันนิษฐานว่าอยู่ที่เมียนมา คาบสมุทรไทย มาเลย์ และสุมาตรา กับสุวรรณทวีป หมายถึง คาบสมุทรไทย-มาเลเซีย สุมาตรา และเกาะอื่นๆ โดยมีการค้าเป็นปัจจัยหลัก ตามด้วยการจัดการบ้านเมือง และศาสนา ซึ่งพระพุทธศาสนามีบทบาทมาก

ในระยะหลังเมื่อศึกษาการขุดค้นด้านโบราณคดีประกอบเพิ่มขึ้น ทั้งในเมียนมา ไทย มาเลเซีย และเวียดนาม รวมทั้งในอินเดียและจีน พบหลักฐานสนับสนุนมากขึ้น จากการขุดค้นทางโบราณคดีครั้งล่าสุด ที่ เขาสามแก้ว จ.ชุมพร บริเวณคอคอดกระ ของคาบสมุทรไทย-มาเลย์ ที่ต่อเนื่องกับเมียนมาตอนใต้ และสุไหงบาตูที่เคดะห์ที่เก่าแก่ถึงพุทธศตวรรษที่ 2 พร้อมกับพบหลักฐานทางโบราณคดี ที่บอกถึงสุวรรณภูมิ

Advertisement

มีการศึกษาข้อมูลใหม่ว่าด้วยเรื่อง สุวรรณภูมิ ทั้งของประเทศไทย และต่างประเทศปี 2561 พบว่า ในรอบ 100 ปี ที่ผ่านมา มีหลักฐาน ร่องรอย ที่พบได้ในหลายพื้นที่ และมีความชัดเจนขึ้นมามากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

ผศ.ดร.สมบัติ อยู่เมือง รองประธานคณะอนุกรรมการโครงการฯ และกรรมการบริหารจิสด้า กล่าวว่า การนำสุวรรณภูมิในโลกปัจจุบันเข้าไปเชื่อมโยงสู่ความเป็นอนาคต เป็นการวิเคราะห์เส้นทางโลกเสมือนจริง ซึ่งอาจเป็นจริง แต่ความเป็นจริง ที่ให้คุณค่าและความรู้สึกร่วม ตามที่ได้รับแรงบันดาลใจในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่ทรงพระราชทานนามสนามบินสุวรรณภูมิที่มีอยู่จริงให้เสมือนการปักดินแดนในเชิงสัญลักษณ์ เพื่อสร้างมูลค่าและคุณค่าจากมรดกที่มีอยู่ งานนี้จึงเป็นการเทิดพระเกียรติแด่พระองค์ท่าน

” โครงสร้างของความคิด มีขอบเขตที่ใหญ่พอที่จะก่อให้เกิดผลกระทบ ต่อการขยายไปสู่การสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ในหลายด้าน และช่วยจุดประกายอารยธรรม บนผืนแผ่นดินสุวรรณภูมิที่มีอยู่จริงด้วยหลักฐานเชิงประจักษ์ จากนักวิชาการระดับประเทศ และระดับโลก ซึ่งได้นำความโดดเด่นของดินแดนสุวรรณภูมิ มาวิเคราะห์คุณค่า ได้ออกเป็น 5 กลุ่ม เราเรียกว่า คุณค่าของสุวรรณภูมิ ใน 5 มิติ”ผศ.ดร.สมบัติ กล่าว

สำหรับคุณค่าทั้ง 5 มิติ ของดินแดนสุวรรณภูมิ ที่จิสด้าได้วิเคราะห์ความโดดเด่นออกมานั้นประกอบด้วย
1.ด้านภูมิศาสตร์ กายภาพ และทรัพยากร ที่พบว่า อยู่บนสะพานเชื่อมโลกที่เต็มไปด้วยของมีค่า ด้วยธรณีสัญฐานที่มีลักษณะพิเศษหลายประการ คือ เป็นคาบมหาสมุทร ที่อยู่ระหว่าง 2 มหาสมุทรที่สำคัญของโลก เป็นเหมือนสะพานแผ่นดิน ที่คั่นระหว่าง โลกตะวันออก และตะวันตก ตั้งอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร มีภูมิอากาศชุ่มชื้น ลมมรสุมพัดผ่าน อุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งในดิน หิน บนบก และในน้ำ ไม่ว่าจะเป็น แร่ธาตุ และโลหะ จึงนับว่าเป็นสถานที่ตั้งที่เป็น ทำเลทอง ของทั้งโลก อันเป็นที่เสาะแสวงหาของผู้คนจากทั่วโลก

2.ด้านการตั้งถิ่นฐาน และพัฒนาการของรัฐ คือตั้งอยู่ในทำเลที่เต็มไปด้วยของมีค่า ที่ผู้คนหลากหลายดินแดน ทั่วทุกทิศ มาแสวงหาผลิตผลและผลิตภัณฑ์ มีการตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนเป็นชุมทาง กระทั่งพัฒนาเป็นเมืองท่า และสถานการค้า ตามด้วยการก่อตั้งเป็นนครรัฐ ถึงขณะนี้ พบว่า มี 2 บริเวณที่สำคัญคือ เขาสามแก้ว ที่คอคอดกระ และสุไหงบาตู ในลุ่มน้ำบูจัง เขาสามแก้ว เป็นเมืองท่า ที่มีการพัฒนาอยู่บนเส้นทางสายไหมทะเล นับเป็นเมืองท่าแห่งแรกของทะเลจีนใต้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของโลกาภิวัฒน์ จนอาจนับเป็นเมืองท่าแห่งแรกของทะเลจีนใต้ มีความเป็นมหานครที่ก่อรูปเริ่มแรกเป็นนครรัฐในระดับสากล ตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 2-5

3.ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการผลิต คือเป็นดินแดนแลกเปลี่ยน และสั่งสมวิทยาการเทคโนโลยีและการผลิตของโลก วิทยาการ การเดินทางไกลทางทะเลมายังดินแดนสุวรรณภูมิ เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมความเป็นสุวรรณภูมิในฐานะเมืองชุมทางย่านผ่านไปมา และชุมชนที่มีผู้คนมาตั้งถิ่นฐาน เก็บเกี่ยวผลิตผล และพัฒนาผลิตภัณฑ์ ที่เป็นที่ต้องการ จนกระทั่งพัฒนาเป็นเมืองท่า เป็นสถานีการค้า เป็นนคร ซึ่งมีสิ่งสนับสนุนมากมาย และยังพบวิทยาการ การตั้งถิ่นฐาน การจัดการพื้นที่ทางการเกษตรจากการขุดค้นหลักฐาน วิเคราะห์ล่าสุด ทั้งที่เขาสามแก้ว และสุไหงบาตู เช่น การผลิตภาชนะ อุปกรณ์เครื่องมือ เครื่องใช้จากดินเผา เหล็ก และสำริด การผลิตเครื่องประดับจากหิน แก้ว หรือ ทองคำ เป็นต้น

4.ด้านการค้าขาย พาณิชยการ และบริการ สุวรรณภูมิ ถือเป็นชุมทางและสถานีการค้าสำคัญของโลก อุดมด้วยผลิตภัณฑ์ อันเป็นสินค้าหายาก และสินค้าชั้นดี จากหลักฐานบันทึก จดหมายเหตุ ทั้งของจีน อินเดีย กรีก โรมัน และอาหรับ พบหลักฐานผลิตผล และผลิตภัณฑ์ในตลาดการค้าที่เกี่ยวเนื่องถึงกัน ตั้งแต่ที่มีถิ่นกำเนิดในดินแดน และถูกนำมาซื้อหา ค้าขาย แลกเปลี่ยน จำนวนมาก เช่น กระดองกระ กระดองเต่า ไม้กฤษณา หนังสัตว์ เขาสัตว์ กระดูกสัตว์ ซากสัตว์ ไหมดิบ เส้นไหม แร่ทอง แร่เงิน แร่ดีบุก และแร่สำคัญต่างๆ ส่งขายต่อเป็นทอดๆ โดยไม่มีการเดินทางตลอดสายจากต้นทางถึงปลายทาง สินค้าจากสุวรรณภูมิล้วนแต่เป็นของหรูหรา และฟุ่มเฟือยมีราคา

5.ด้านศิลป วัฒนธรรม เป็นอู่แห่งศิลปะ วัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่การเดินทางติดต่อ ปะทะ สังสรรค์ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ของผู้คน ชนชาติ มานานนับพันปี ตั้งแต่สมัยหินและโลหะ จนเข้าสู่ยุคหัวเลี้ยวหัวต่อของปรวัติศาสตร์ มีภาษา อักขระ และจารึก การสื่อสารอาจมีจดหมายเหตุตามที่ระบุในพงศาวดารราชวงศ์เหลียง มีวิถีวัฒนธรรมการอยู่ร่วม ส่งเสริม สนับสนุน แลกเปลี่ยน เต็มไปด้วยความเป็นมิตรไมตรี พี่น้องเอื้ออาทร พร้อมต้อนรับผู้คน และเรียนรู้ระบบคุณค่าของศรัทธา ศาสนา และการจัดการบ้านเมืองอย่างเหมาะสม โดยมีพระพุทธศาสนา เป็นปฐมฐาน มีการผสมผสานความเป็นอยู่ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ประดับประดาตกแต่งร่างกาย ตลอดจนการประดิษฐ์ ในเชิงศิลปะและความงาม อันแสดงถึงวัฒนธรรมที่ดีงามมากมาย หลายมรดกทางศิลปะและวัฒนธรรมยังคงเหลือมาตั้งแต่เมื่อ 2,000 ปีก่อน เช่น เครื่องใช้ชั้นสูง เครื่องสักการะบูชา เครื่องประดับสูงค่า จารึก เงินตรา และภาชนะต่างๆ เป็นต้น

หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ที่ใช้เทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ มาพิสูจน์ความเชื่อมโยง วัฒนธรรม เศรษฐกิจ และสังคม จากอดีต สู่ปัจจุบัน และอนาคต ของดินแดนสุวรรณภูมิ จะเป็นการสร้างแนวทางให้เกิดโอกาส เพื่อเชื่อมโยงสู่งานข้างหน้าของประเทศไทย และประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียนและระดับโลก ย่อมสร้างโอกาสด้านต่างๆตามมามากมาย ทั้งเรื่องการเรียนรู้ การสร้างความก้าวหน้าทั้งด้านสังคมและเศรษฐกิจ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image