บ.จ่อเลิกขุดเจาะน้ำมันใกล้เมืองศรีเทพ เหตุไม่เปิดเวทีฟังความเห็นรอบ 2 ผู้ว่าฯ ข้องใจผลรอบแรกชาวบ้านหนุน 62.6%

ผู้ว่าฯ เพชรบูรณ์ ถกปมค้านขุดเจาะน้ำมันใกล้เมืองศรีเทพ ข้องใจที่มาตัวเลขเห็นด้วย 62.6% จ่อบี้บริษัทฯจัดทำ EIA แจงที่มา ด้านพลังงานจังหวัดเปรยแนวโน้มบริษัทไม่จัดเวทีรับฟังฯรอบ 2 ทำให้รายงานไม่สมบูรณ์เหมือนยกเลิกกลายๆ

เมื่อวันที่ 19 มีนาคม ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมวาระยามเช้า(Morning Brief) ซึ่งมีนายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์เป็นประธาน มีการหยิบยกประเด็นผลกระทบแหล่งขุดเจาะน้ำมันใกล้เมืองโบราณศรีเทพเข้ารายงานต่อที่ประชุมเพื่อพิจารณาแก้ไขปัญหา โดยนายสืบศักดิ์ แจ้งที่ประชุมว่า ได้รับแจ้งว่าทางบริษัทจะยกเลิกและจะไม่มีการรับฟังความคิดเห็นรอบ 2

ทั้งนี้นายวิศัลย์ โฆษตานนท์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวชี้แจงว่า ปัญหาคือทางบริษัทแค่ชะลอโครงการ ทำให้ชาวเพชรบูรณ์แครงใจว่าทำไมไม่แสดงท่าทีให้ชัดเจนว่า เมื่อใกล้โบราณสถานแบบนี้บริษัทอย่างไรก็จะไม่ขุดเจาะ โดยนายวิศัลย์ ยังยืนยันว่า หากมีหลุมขุดเจาะผุดขึ้นจริง มีผลกระทบต่อโบราณสถานและกระทบต่อการเสนอเป็นมรดกโลกอย่างแน่นอน

“ผมมีโอกาสได้พูดคุยและชี้แจงกับทางผู้จัดการบริษัท ซึ่งก็มีท่าทีจะเข้าใจแต่สุดท้ายก็ยังมีเอกสารสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นรอบที่ 1 ออกมาเห็นด้วย 62.6% จากการสำรวจความคิดเห็นชาวบ้านราว 250 คน และพอตัวเลขไม่พอก็ออกไปสอบถามชาวบ้านอีก 170 กว่าคน ฉะนั้นหากชะลอหรือหยุดจริงผลตรงนี้ออกมาได้อย่างไร” นายวิศัลย์กล่าวและย้ำว่า เมืองศรีเทพเป็นสมบัติของคนทั้งประเทศและกำลังจะเป็นสมบัติของมวลมนุษยชาติ จะไปถามคนหยิบมือเดียว พูดข้อมูลด้านดีเพียงด้านเดียว จึงเป็นการรับฟังความคิดเห็นที่ไม่สมบูรณ์และไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการ

Advertisement

ด้านนายเอกศักดิ์ ญาโณทัย พลังงานจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า การจัดรับฟังความคิดเห็นฯเป็นไปตามขั้นตอน หลังเสร็จสิ้นแล้วจะต้องทำการเผยแพร่ ซึ่งเป็นขั้นตอนตามปกติตามกฎหมาย เพียงแต่ออกมาในช่วงนี้พอดีทำให้เกิดข้อสงสัยว่าไหนบริษัทบอกว่าจะชะลอ อย่างที่เรียนผู้ว่าฯไว้ก่อนหน้านี้ว่า ทางบริษัทและกรมเชื้อเพลิงอยู่ระหว่างการเคลียร์ โดยจะมีการแจ้งว่าจะขอยกเลิกหลุมขุดเจาะบริเวณนี้อย่างเป็นทางการโดยจะมีการชี้แจงอีกที

“แต่ดูแล้วในแนวโน้มการจัดรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 2 ในเดือนหน้าทางบริษัทก็จะมีการยกเลิกไปแล้วเช่นกัน และเมื่อไม่มีการรับฟังความเห็นครั้งที่ 2 ก็เหมือนจะเป็นการยกเลิกไปกลายๆ เพราะจะเป็นรายงานที่ไม่สมบูรณ์ ไม่สามารถส่งให้ทางกระทรวงทรัพยากรฯได้ เพียงแต่ว่าท่าทีของกรมเชื้อเพลิง ซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแลการปิโตรเลียมจะต้องแถลงให้ชัดเจนอีกที” นายเอกศักดิ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ในที่ประชุมยังได้มีการหารือถึงหนังสือจากบริษัทฯ จัดทำรายงาน EIA แจ้งขอให้ส่วนราชการปิดประกาศผลการรับฟังความคิดเห็นฯขึ้นมาหารือ โดยนายบรรทูล อิ่มสุขศรี วัฒนธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ เสนอในที่ประชุมให้ระงับการปิดประกาศไว้ก่อน พร้อมให้เหตุผลว่า หากส่วนราชการดำเนินการตามที่มีการร้องขอ เกรงว่าจะเป็นการเห็นชอบไปโดยปริยายกับ 62.6% ซึ่งนายบรรทูลย้ำด้วยว่า “โดยส่วนตัวคัดค้านในที่ประชุมหัวหน้าส่วนฯตั้งแต่แรกว่า ไม่ให้เกิดได้ไหมแต่ตอนนี้เหมือนเริ่มซึมไปเรื่อยๆ สมมุติส่วนราชการไปปิดก็เหมือนป่าวประกาศให้คนทั่วไปได้รับรู้รับทราบ จึงเสมือนเป็นการยอมรับผลการรับฟังฯนี้ไปโดยปริยาย”

Advertisement

นายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า หากสงสัยถึงที่ไปที่มาการเห็นด้วย 62.6% ก็ต้องให้บริษัทมาชี้แจงถึงที่มา รวมถึงทำถูกระเบียบวิธีการประชาพิจารณ์หรือไม่ ต้องมาชี้แจงเพื่อให้สังคมได้รับรู้ ไม่ได้แย้งเพียงแต่ขอทราบในรายละเอียด 62.6% ไม่ได้เข้าข้างใครแต่คนคัดค้านกันเมือง หากทำมาด้วยความซื่อสัตย์ซื่อตรงก็ไม่มีใครว่า ก็เหมือนการทำวิจัยมีการสุ่มตัวอย่างถูกต้องไหม 62.6% เอามาหมู่บ้านไหน กี่หมู่และเอาบัญชีรายชื่อมาจากไหน มีการถามนำหรือเปล่า ตรงนี้ไม่เข้าข้างใครแต่ทุกอย่างต้องทำอย่างโปร่งใส เมื่อค้านกับใจเราก็ต้องถามเขาได้ไม่ได้เป็นปรปักษ์กับใคร

อย่างไรก็ตามในที่ประชุมมีมติให้ทำหนังสือถึงบริษัทที่จัดเวทีรับฟังความคิดเห็น และจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) มาชี้แจงในที่ประชุมหัวหน้าส่วนราชการฯในวันที่ 28 มีนาคม 2562 ว่า เป็นไประเบียบและกฎหมายการทำประชาพิจารณ์หรือไม่ และที่มาของผลการรับฟังความคิดเห็นซึ่งมีผู้เห็นชอบ 62.6% จากนั้นนายสืบศักดิ์จี้ถามถึงหน่วยงานดูแลถึงการทำประชาพิจารณ์ โดยมอบให้ทางสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัด ในฐานะตัวแทนสำนักนายกรัฐมนตรีให้เป็นเจ้าภาพงัดระเบียบกฎหมายขึ้นมา

ทั้งนี้นายสืบศักดิ์ กล่าวย้ำว่า ในฐานะเป็นคนกลางต้องทำให้ถูกต้อง การไปเดินสอบถามแล้วมาบอกทำประชาพิจารณ์อันนี้เข้าใจว่าจะไม่ถูกต้อง

ในขณะที่นายวิศัลย์ กล่าวเสริมโดยตั้งข้อสังเกตว่า การรับฟังความคิดเห็น เป็นการทำในเชิงผลกระทบแค่เพียงหมู่บ้านเดียว แต่จริงๆ เรื่องนี้ไม่ใช่แค่กระทบกระเทือนโบราณสถานที่กำลังขึ้นทะเบียนมรดกโลกและเป็นเสมือนสมบัติของชาวเพชรบูรณ์และคนไทยทั้งประเทศ และกำลังจะเป็นสมบัติของมวลมนุษยชาติ ซึ่งหลักการการประชาพิจารณ์สิ่งที่สำคัญที่สุด คือผู้เข้าร่วมประชาคมหรือแสดงความคิดเห็นจะต้องเป็นผู้ที่มีส่วนได้เสีย ไม่ใช่คนหยิบมือเดียวหรือแค่คนสระปรือ แต่ผู้เข้าร่วมรับฟังและแสดงความคิดเห็นต้องกว้างกว่านั้น อีกข้อต้องมีการให้ข้อมูลทั้งสองด้าน ทั้งด้านดีและด้านผลกระทบ แต่อันนี้ไม่มีเลยมีแต่ไปพูดชี้แจงด้านดีเพียงด้านเดียวทั้งหมด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image