กรุงศรีลุ้นการเมืองนิ่งดันเอกชนลงทุน เผยค่าบาทแข็งหนุนธุรกิจซื้อกิจการ-ลงทุนตปท.เพิ่ม

นายพรสนอง ตู้จินดา ประธานกลุ่มธุรกิจลูกค้าธุรกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจ(จีดีพี) ไทย ปี 2552 คาดว่าจะขยายตัว 3.8% ถือว่าขยายตัวได้ต่อเนื่อง แต่ยังไม่กระจายตัวถ้วนหน้า ซึ่งเศรษฐกิจในกรุงเทพฯ ปริมณฑลและจังหวัดใหญ่ ฟื้นตัวดีกว่าจังหวัดอื่น ขณะที่ถาคอุตสาหกรรม ท่องเที่ยว ฟื้นตัวมากกว่าภาคการเกษตร เป็นต้น ดังนั้น ทิศทางการดำเนินงานของกลุ่มลูกค้าธุรกิจจะยังต้องมีความระมัดระวังเลือกลูกค้าที่มีศักยภาพและมีการดูแลคุณภาพของสินเชื่อรวมทั้งมีการนำเสนอบริการเพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้ามากขึ้น โดยปัจจุบันสินเชื่อธุรกิจคิดเป็นสัดส่วน 40% ของพอร์ตสินเชื่อรวม หรือสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 6.49 แสนล้านบาท แบ่งเป็นสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ 25% และสินเชื่อธุรกิจนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) 15% สำหรับปีนี้แนวโน้มการขยายตัวสินเชื่อธุรกิจยังต้องตามตามแนวโน้มเศรษฐกิจทั้งเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจไทย และรอความชัดเจนการเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคมนี้ หากการเลือกตั้งแล้วเสร็จสามารถจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้เรียบร้อย การเมืองมีเสถียรภาพ เชื่อว่าจะทำให้เกิดความเขื่อมั่นและมั่นใจที่จะลงทุนมากขึ้น โดยธุรกิจที่ยังมีแนวโน้มขยายตัวดีคือกลุ่มธุรกิจด้านโครงสร้างพื้นฐาน การก่อสร้างและวัสดุสร้าง ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม รวมทั้งกลุ่มธุรกิจเฮลแคร์ เช่น โรงพยาบาล และธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรม อย่างไรก็ตาม ธนาคารตั้งเป้าหมายสินเชื่อธุรกิจเติบโต 6.2% หรือสินเชื่อคงค้างที่ 6.89 แสนล้านบาท และคาดว่าเงินฝากจะขยายตัว 10.1% หรือยอดเงินที่ 2.87 แสนล้านบาท 

นายพรสนอง กล่าวว่า ในปี 2562 กรุงศรีมีแนวทางในการดูแลลูกค้า สนับสนุนการให้สินเชื่อเพื่อการเติบโตและการขยายธุรกิจด้วยบริการครบทุกรูปแบบ  ให้บริการโซลูชั่นทางการเงินแบบครบวงจรเพื่อให้เหมาะสมกับธุรกิจและช่วงการเติบโตของธุรกิจของลูกค้า รวมทั้งสร้างความแข็งแกร่งผ่านความร่วมมือกับเอ็มยูเอฟจี กรุ๊ป และพัฒนาบริการที่มีประสิทธิภาพที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ทันทีผ่านดิจิทัล แพลตฟอร์ม รวมทั้งนวัตกรรมการเงินเพื่อบริหารสภาพคล่องที่ช่วยในการดำเนินงานและบริหารความเสี่ยงให้กับลูกค้าธุรกิจ คาดว่าจะทำให้สัดส่วนรายได้ของธนาคารจากปัจจุบันที่รายได้ดอกเบี้ย 70% และรายได้ค่าธรรมเนียม 30% เพิ่มเป็นรายได้ค่าธรรมเนียม 40% และรายได้ดอกเบี้ย 60% ในปี 2563

นางเมธินี จงสฤษดิ์หวัง ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า สินเชือธุรกิจขนาดใหญ่ขยายตัวได้ดีต่อเนื่องทั้งการลงทุนในประเทศ การขยายกิจการต่างประเทศ รวมทั้งการควบรวมและซื้อกิจการ ธนาคารคาดว่าสินเชื่อธุรกิจรายใหญ่จะเติบโต 8% หรือยอดสินเชื่อคงค้าง 4.08 แสนล้านบาท และจะขยายเงินฝากเพิ่มขึ้น 19% เพื่อรองรับการขยายตัวของสินเชื่อที่เติบโตดี คาดยอดเงินฝากเพิ่มเป็น 9.1 หมื่นล้านบาท จะเน้นให้ลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่มาใช้ธนาคารเป็นธนาคารหลักในการบริหารจัดการการเงินมากขึ้นเพื่อเพิ่มฐานเงินฝากตามมาซึ่งปกติลูกค้าธุรกิจแต่ละรายจะมีเงินฝากประมาณ 50-100 ล้านบาท นอกจากนี้ พบว่าค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นในช่วงที่ผ่านมาทำให้มีธุรกิจไทยที่มองโอกาสการซื้อกิจการในต่างประเทศมากขึ้นเพราะได้ประโยชน์จากค่าเงินบาท ประเมินว่ามีดีลเข้ามาต่อเนื่องและมูลค่าดีลน่าจะมากว่าปีที่ผ่านมา ด้านคุณภาพสินเชื่อธุรกิจรายใหญ่ยังมีคุณภาพดีและหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่ำที่ 1.4%

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image