“กคช.” กำชับ รื้อแฟลตดินแดง คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อาศัย-ผลกระทบสิ่งแวดล้อม

นายธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่การเคหะแห่งชาติประสบความสำเร็จในการจัดทำโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดงระยะที่ 1 (อาคารแปลง G) เพื่อรองรับผู้อยู่อาศัยเดิมในโครงการเคหะชุมชนดินแดง จำนวน 334 หน่วย โดยอาศัยกระบวนการมีส่วนร่วมของผู้อยู่อาศัยเดิมและหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้องต่างๆ ปัจจุบันการเคหะแห่งชาติยังคงดำเนินโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 2 รองรับผู้อยู่อาศัยเดิม จำนวน 1,247 หน่วย ขณะนี้อยู่ระหว่างการรื้อถอนอาคารแฟลตที่ 18 – 22 เป็นไปตามข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการเคหะแห่งชาติได้ศึกษารายละเอียดโครงสร้างอาคารที่จะรื้อถอนและสภาพแวดล้อมด้วยความรอบคอบ และควบคุมการปฏิบัติงานของผู้ดำเนินการรื้อถอนให้เป็นไปตามขั้นตอนวิธีการ และมีความปลอดภัยในการรื้อถอนอาคารตามที่ได้รับอนุญาต อีกทั้งยังได้กำชับให้เพิ่มมาตรการในการลดผลกระทบที่เกิดจากการรื้อถอน อาทิ การฉีดพ่นน้ำเป็นระยะๆ เพื่อลดฝุ่นละอองในอากาศ และเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้อยู่อาศัยในอาคารข้างเคียงและผู้ที่สัญจรโดยรอบพื้นที่โครงการ

สำหรับความคืบหน้าโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 2 เพื่อรองรับผู้อยู่อาศัยเดิม จำนวน 2 อาคาร รวมทั้งสิ้น 1,247 หน่วย ได้แก่ แปลง A (อาคาร A1) สูง 32 ชั้น และแปลง D1 (อาคาร D1) สูง 35 ชั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดหาผู้รับจ้างดำเนินการก่อสร้างโครงการดังกล่าว ขณะเดียวกันการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการฯ จะนำเสนอคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติพิจารณาในวันที่ 27 มีนาคม 2562

นายสมพงษ์ สว่างกล้า ผู้อยู่อาศัยเคหะชุมชนดินแดง 1 กล่าวว่า ได้อาศัยอยู่ในแฟลตดินแดงมาเป็นระยะเวลาเกือบ 50 ปี เปรียบเสมือนถิ่นกำเนิด เป็นที่ก่อเกิดความรัก ความผูกพัน และความสามัคคีของคนในครอบครัว รวมถึงเพื่อนบ้านเรือนเคียง แต่ด้วยระยะเวลาของแฟลตที่มีอายุมายาวนาน จึงเกิดการเสื่อมโทรมตามสภาพ การเคหะแห่งชาติได้ดำเนินโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง สร้างโอกาสให้ผู้อยู่อาศัยได้มีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สำหรับตนเองนั้นเป็นผู้ได้สิทธิเช่าเข้าอยู่อาศัยในโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 2 และอาศัยอยู่ใกล้บริเวณรื้อถอนอาคารแฟลตที่ 21 – 22 ซึ่งการเคหะแห่งชาติให้ความสำคัญต่อผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับผู้อยู่อาศัยและผู้ที่สัญจรไปมา โดยจัดให้มีรถมาฉีดพ่นน้ำอย่างต่อเนื่องเพื่อลดการเกิดฝุ่นละออง และมีการป้องกันเศษวัสดุร่วงหล่นที่อาจจะเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินอีกด้วย

Advertisement

เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว

Advertisement

เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image