ห่วงช่วงสงกรานต์เด็กจมน้ำเสียชีวิต

เมื่อวันที่ 27 มีนาคม รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้อำนวยการสถาบันเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงสถานการณ์เด็กจมน้ำ ในช่วงฤดูร้อน ว่า อัตราการเสียชีวิตของเด็กจากการจมน้ำพบมากในช่วงเดือนมีนาคม ถึงเดือนพฤษภาคม และพบยอดการตายของเด็กสูงสุดของประเทศในช่วงระหว่าง 12-23 เมษายนของทุกปี ทั้งนี้ สาเหตุมาจากเด็กไทย ขาดทักษะการช่วยเหลือตนเองจากจมน้ำ และการไม่รู้จักประเมินจุดเสี่ยง ซึ่งกลุ่มเด็กที่จมน้ำเสียชีวิตส่วนใหญ่จะอยู่ในอายุระหว่าง 6-12 ปี สถานที่เกิดเหตุ มักจะเป็นแหล่งน้ำในชุมชน อายุมากกว่า 12 ปี จะเสียชีวิตในแหล่งน้ำนอกชุมชน

รศ.นพ. อดิศักดิ์ กล่าวว่า การแก้ปัญหาเด็กจมน้ำ ต้องเพิ่มทักษะ 5 ด้านให้เด็ก ทั้ง 1.รู้จักเลี่ยงเข้าใกล้จุดเสี่ยง 2.ฝึกลอยตัวในน้ำให้ได้อย่างน้อย 3 นาที 3.รู้จักการว่ายเข้าฝั่งให้ได้อย่างน้อย 15 เมตร เพราะสาเหตุของการจมน้ำ เด็กมักจะห่างจากฝั่งไม่มาก 4.รู้จักขอความช่วยเหลือ ทั้ง ตะโกน โยน ยื่น สิ่งของช่วยเหลือผู้อื่น และ 5. ใส่เครื่องช่วยชีวิต เช่น ชูชีพ ในการเดินทางทางน้ำ

ทั้งนี้ตั้งเป้าลดอัตราการจมน้ำเสียชีวิตในเด็กให้เหลือ 250 รายต่อปี จากปัจจุบัน 700 รายต่อปี ทั้งนี้ที่ผ่านมา ทางสถาบันฯได้ร่วมกับ โรงเรียนสังกัดสพฐ. ฝึกอบรมครู และนักเรียนให้รู้จักป้องกันตนเองจากการจมน้ำ และทำให้ชุมชนในพื้นที่ปรับตัว สร้างสถานที่หรือแหล่งน้ำที่เหมาะสมกับเด็ก โดยให้เด็กต้องเรียนรู้สถานที่ของตนเอง ป้องกันตนเองถูกต้อง รู้จักจุดเสี่ยง โดยพบว่าแห่งน้ำของชุมชน มักขาดผู้ดูแล ต้องระวัง เพียงแต่ขณะนี้นโยบายการป้องกันตัว หรือสอนทักษะเด็กจมน้ำยังไม่แพร่หลาย และใช้ได้แค่บางโรงเรียนเท่านั้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image