กรุงศรีลุยเพิ่มฐานเอสเอ็มอีญี่ปุ่น ปั๊มค่าธรรมเนียมดันรายได้

นายสยาม ประสิทธิศิริกุล ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารด้านธุรกิจเอสเอ็มอี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) ปีนี้ยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่อง แต่ยังต้องติดตามภาวะเศรษฐกิจ โดยเฉพาะทิศทางเศรษฐกิจโลกและการเมืองทั่วโลก สงครามการค้าสหรัฐและจีน เศรษฐกิจจีนที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง อาจจะส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจไทยได้ ขณะที่สถานการณ์การเมืองในประเทศมองว่าเป็นปัจจัยกระทบระยะสั้นเชื่อว่าผู้ประกอบการธุรกิจเอกชนจะสามารถปรับตัวได้เหมือนที่ผ่านมา 

นายสยาม กล่าวว่า สำหรับแผนธุรกิจเอสเอ็มอีของธนาคารปีนี้ ธุรกิจหลักได้แก่ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง ธุรกิจการผลิต ธุรกิจนำเข้าและส่งออก เป็นต้น จะไม่เน้นการเติบโตสินเชื่อมากนัก แต่จะให้ความสำคัญกับธุรกรรมระหว่างประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยจะเริ่มจากเอสเอ็มอีไทยที่ส่งออกไปประเทศญี่ปุ่น ให้บริการด้วยกลยุทธ์นิจิเระ จะทำให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ระยะเวลาที่สั้นลง และอัตราแลกเปลี่ยนที่แข่งขันได้และจะใช้เครือข่ายที่แข็งแกร่งและครอบคลุมระดับโลกของเอ็มยูเอฟจี กรุ๊ป บริษัทแม่จากญี่ปุ่นเพื่อให้บริการ ด้านเอสเอ็มอีสัญชาติญี่ปุ่นที่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทยส่วนใหญ่เป็นลูกค้าธนาคารแต่ยังมีส่วนหนึ่งที่ยังไม่ได้ใช้บริการธนาคารจากการสำรวจมีกว่า 2,800 บริษัท รายได้เฉลี่ย 1,000 ล้านบาทต่อปี ได้เริ่มให้ทีมงานคนญี่ปุ่นเข้าไปนำเสนอบริการต่างๆ คาดจะมีลูกค้ากลุ่มนี้มาใช้บริการ 100 บริษัทในปีแรกนี้ และจะขยายจำนวนเพิ่มต่อเนื่องในปีต่อไป ทั้งนี้ เมื่อลูกค้าทำธุรกรรมผ่านเครือข่ายของเอ็มยูเอฟจี กรุ๊ป และผ่านธนาคารกรุงศรีฯ จะทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินเชื่อและเงินทุนหมุนเวียนที่เพิ่มมาก นอกจากนี้ ยังพัฒนาช่องทางดิจิทัลเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการด้วย

นายสยาม กล่าวว่า ปีนี้ตั้งเป้าหมายสินเชื่อคงค้างเติบโตเพียง 2% หรือมูลค่า 2.04 แสนล้านบาท จากปี 2561 ที่สินเชื่ออยู่ที่ 2 แสนล้านบาท เติบโตถึง 16.6% จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 7% และเติบเติบโตมากกว่าอุตสาหกรรมที่เติบโต 4.5% ผลจากสินเชื่อใหม่ สินเชื่อซัพพลายเชน และสินเชื่อเทรดไฟแนนซ์ ด้านคุณภาพสินเชื่อ มีการดูแลให้วงเงินที่เหมาะสมกับการใช้จริงและความสามารถในการชำระเงิน ทำให้หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล) อยู่ที่ 3.8% ณ สิ้นปี 2561 ที่ผ่านมา และปีนี้จะดูแลให้อยู่ในระดับนี้ และจะมุ้งสร้างรายได้เติบโตต่อเนื่องคาดว่าปีนี้เติบโต 7% มาจากการเติบโตค่าธรรมเนียม จากการทำธุรกรรมเทรดไฟแนนซ์และด้านอัตราแลกเปลี่ยนเป็นสำคั

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image