นายอิสระ วงศ์รุ่ง รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กำหนดให้ผู้ที่ถือบัตรเอทีเอ็มและบัตรเดบิตแบบแถบแม่เหล็กของธนาคาร มาเปลี่ยนเป็นบัตรแบบชิปการ์ดภายวันที่ 31 ธันวาคมนี้ ธนาคารจึงเร่งประชาสัมพันธ์ ให้ผู้ถือบัตรเอทีเอ็มและบัตรเดบิตแบบแถบแม่เหล็กของธนาคารทั้ง 6 ล้านใบ มาเปลี่ยนเป็นบัตรแบบชิปการ์ด ซึ่งขณะนี้มีการเปลี่ยนบัตรเป็นแบบชิปการ์ดแล้วจำนวน 4 ล้านใบ จึงอยากเชิญชวนผู้ถือบัตรอีก 2 ล้านใบที่เหลือมาเปลี่ยนบัตรแบบชิปการ์ดโดยไม่เสียค่าธรรมเนียม แต่หากไม่มาเปลี่ยนเป็นบัตรชิปการ์ดภายในสิ้นปีนี้ ผู้ถือบัตรเก่าจะไม่สามารถใช้งานได้อีก และหากมาเปลี่ยนบัตรใหม่แบบชิปการ์ดในปีหน้าจะต้องเสียธรรมเนียมออกบัตรใหม่
นายอิสระกล่าวว่า ในปัจจุบันยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตในประเทศยังอยู่ในระดับที่ต่ำมาก เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 3/2561 หรือประมาณ 10 เดือนของปีที่แล้ว มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตเพียง 1,500 ล้านบาทเท่านั้น คิดเป็นจำนวนครั้งที่ใช้ 730, 000 ครั้ง ทั้งนี้ เป็นเพราะประชาชนกว่า 90% ยังเคยชินกับการใช้บัตรเดบิตเอทีเอ็มและบัตรในการกดเงินสด มากกว่านำไปใช้ชำระค่าสินค้า
นายอิสระ กล่าวว่า เพื่อกระตุ้นให้หันมาเปลี่ยนบัตรเป็นแบบชิปการ์ดและใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตมากขึ้น ตามนโยบายของรัฐบาลที่ส่งเสริมการพัฒนาระบบการชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อสร้างสังคมไร้เงินสด ธนาคารจึงเปิดตัวกิจกรรม “เดบิตออมสิน แจกโชคทองข้ามปี แค่พกก็อุ่นใจ ยิ่งใช้ยิ่งรวย” เป็นการกระตุ้นลูกค้าเปลี่ยนบัตรแถบแม่เหล็กเป็นบัตรชิปการ์ดและใช้ชำระสินค้าแทนเงินสด โดยตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2562-31 มีนาคม 2563 ผู้สมัครบัตรใหม่ ยกเว้นบัตรออมสิน ประเภทเบสิค ผู้ที่ติดต่อเปลี่ยนบัตรแถบแม่เหล็กเป็นบัตรแบบชิปการ์ด รวมถึงผู้ที่ใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตที่ซื้อของยอดตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป จะได้สิทธิ์ลุ้นรรับรางวัลที่ธนาคารจะจับรางวัล 3 ครั้ง รวม 106 รางวัล รวมมูลค่าทั้งสิ้น 3.2 ล้านบาท โดยรางวัลสูงสุดเป็นทองคำหนัก 10 บาท จำนวน 4 รางวัล
