ศูนย์วิจัย ธ.ก.ส. คาดการณ์ราคาสินค้าเกษตรเดือนเมษายน 62

นายสมเกียรติ กิมาวหา ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาสินค้าเกษตรเดือนเมษายน 2562 ที่จัดทำโดย ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม ธ.ก.ส. ว่า คาดการณ์ว่า ราคาสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ความชื้นไม่เกิน 14.5% ราคาจะเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.50%-1.50% อยู่ที่ราคา 8.08-8.16 บาทต่อกิโลกรัม เนื่องจากผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังนาบางส่วนได้รับความเสียหายจากภัยแล้งในช่วงการเก็บเกี่ยว ทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดลดลง ขณะที่ความต้องการใช้ภายในประเทศเพิ่มขึ้นจากการลดการนำเข้าข้าวสาลีเพื่อใช้ในผลิตอาหารสัตว์

ขณะที่ ยางพาราแผ่นดิบ ราคาจะเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.38%-7.48% อยู่ที่ราคา 43.49-46.57 บาทต่อกิโลกรัม เนื่องจากเป็นช่วงฤดูยางผลัดใบ เกษตรกรหยุดกรีดยาง ประกอบกับภาวะอากาศที่แล้งส่งผลต่อปริมาณน้ำยางที่กรีดได้ จึงทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยลง มันสำปะหลัง ราคาจะเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนเล็กน้อย 0.46%-3.70% อยู่ที่ราคา 2.17-2.25 บาทต่อกิโลกรัม เนื่องจากเป็นช่วงปลายฤดูกาลเก็บเกี่ยว ผลผลิตออกสู่ตลาดลดลง แต่ความต้องการยังมีอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับราคาส่งออกมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้เกษตรกรขายผลผลิตได้ในราคาเพิ่มขึ้น และสุกร ราคาจะเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.09%-0.84% อยู่ที่ราคา 66.50-70.00 บาทต่อกิโลกรัม เนื่องจากความต้องการบริโภคเนื้อสุกรเพิ่มขึ้นจากการเข้าสู่เทศกาลสงกรานต์ ประกอบกับสภาวะอากาศร้อนส่งผลให้สุกรเจริญเติบโตช้าทำให้ผลผลิตที่ออกสู่ตลาดลดลง

ด้านสินค้าเกษตรที่จะมีราคาลดลง ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% ราคาจะลดลงจากเดือนก่อน 0.46%-1.85% อยู่ที่ราคา 7,423-7,526 บาทต่อตัน เพราะค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นและผลผลิตข้าวนาปรังกำลังทยอยออกสู่ตลาด ข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคาจะลดลงจากเดือนก่อน 1.09%-3.37% อยู่ที่ราคา 15,231-15,593 บาทต่อตัน เนื่องจากเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น ข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาว ราคาจะลดลงจากเดือนก่อน 0.93%-4.35% อยู่ที่ราคา 9,985-10,322 บาทต่อตัน เนื่องจากผลผลิตข้าวเหนียว    นาปรังกำลังทยอยออกสู่ตลาด น้ำตาลทรายดิบตลาดนิวยอร์ก ราคาจะลดลงจากเดือนก่อน 0.50%-1.00% อยู่ที่ราคา 12.60-12.67 เซนต์ต่อปอนด์ (8.81-8.86 บาทต่อกิโลกรัม) เนื่องจากอินเดียจะส่งออกน้ำตาลดิบแก่อิหร่านในเดือนมีนาคมและพฤษภาคม ซึ่งเป็นการขายแก่อิหร่านเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี

ขณะที่อิหร่านกำลังประสบปัญหาการจัดหาอาหารภายใต้มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐ ประกอบกับรัฐบาลอินเดียมีแผนจะให้เงินกู้ 3.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ให้แก่โรงงานน้ำตาลและโรงงานน้ำตาลรีไฟน์ จึงเป็นแรงกระตุ้นการผลิตน้ำตาลของอินเดียและจะส่งผลให้ผลผลิตน้ำตาลโลกเพิ่มขึ้น ปาล์มน้ำมัน ราคาจะลดลงจากเดือนก่อน 0.93%-2.33% อยู่ที่ราคา 2.10-2.13 บาทต่อกิโลกรัม เนื่องจากผลผลิตน้ำมันปาล์มออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ความต้องการใช้คงที่ ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันปาล์มดิบส่วนเกินเป็นจำนวนมาก และกุ้งขาวแวนนาไม ราคาจะลดลงจากเดือนก่อน 3.33%-6.67% อยู่ที่ราคา 140-145 บาทต่อกิโลกรัม เนื่องจากคาดว่า ปริมาณผลผลิตในตลาดโลกยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้สถานการณ์ราคากุ้งขาวแวนนาไมทั่วโลกปรับลดลง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากรัฐบาลของอินเดียและเวียดนามเร่งส่งเสริมให้เกษตรกรเพิ่มปริมาณผลผลิต ทำให้ราคากุ้งขาวแวนนาไมไทยได้รับแรงกดดันและราคาปรับตัวลดลง

Advertisement

เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว

เพิ่มเพื่อน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image