นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า มีความเป็นห่วงการจัดเก็บภาษีในช่วงครึ่งหลังของปีงบประมาณ ตั้งแต่เดือนเมษายน-กันยายน 2562 มีแนวโน้มไม่ดีนัก จากภาวะเศรษฐกิจปรับลดลงจากปีก่อนที่โต 4.1% เหลือ 3.5-3.8% ปีนี้ และเท่าที่ดูผลประกอบการของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์มีแนวโน้มไม่ดี อาจจะกระทบต่อเป้าหมายตั้งไว้ทั้งปี 2 ล้านล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีแรกงบประมาณ คือ ตุลาคม 2561- มีนาคม2562 กรมสรรพากรจัดเก็บภาษีถึง 8.2 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.9% เทียบปีก่อน หรือเพิ่มขึ้น 5.3 หมื่นล้านบาท และเกินกว่าเป้าหมาย 3% หรือ 2.3 หมื่นล้านบาท ดีหน่อยที่ครึ่งแรกของปีงบจัดเก็บเกินกว่าเป้าหมายเป็นการจัดเก็บเกินกว่าเป้าครั้งแรกในรอบ 5-6 ปี
นายเอกนิติกล่าวว่า นอกจากนี้กฎหมายแรงงานฉบับใหม่กำหนดให้จ่ายชดเชยมากขึ้น รวมถึงจากมาตรฐานบัญชีฉบับใหม่ ทำให้หลายธุรกิจต้องตั้งสำรองมากขึ้น จะกระทบต่อผลกำไรทำให้เสียภาษีลดลง โดยเฉพาะภาษีเงินได้นิติบุคคล โดยในขณะนี้การดำเนินธุรกิจมีความไม่แน่นอนสูง รวมถึงการเมืองที่ไม่แน่นอน มีสัญญาณว่าเศรษฐกิจไม่ดีอาจกระทบต่อการจัดเก็บภาษี เช่น อากรแสตมป์ลดลง โดยพบว่าอากรแสตมป์จากกรมที่ดินติดลบ 2.6% จากกรมขนส่งทางบกติดลบ 1.8% ดังนั้นในช่วงครึ่งหลังของปีกรมสรรพากรคงต้องเหนื่อยหน่อย
นายเอกนิติกล่าวต่อว่า ในช่วงครึ่งปีแรกการจัดเก็บภาษีของกรมเพิ่มขึ้นเกือบทุกตัว ภาษีบุคคลธรรมดาเฉพาะยื่นแบบอยู่ที่ 1.5 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 5.373% ส่วนภาษีมูลค่าเพิ่ม(แวต) จัดเก็บได้ 4.4 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.5% จากปีที่ผ่านมาโดยกรมอยู่ระหว่างการติดตามจัดเก็บภาษีเงินนิติบุคคลเข้ามาในช่วงเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม
เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว
