นางสาววชิรา อารมย์ดี ผู้ช่วยผู้ว่าการสายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนในระยะต่อไปยังมีแนวโน้มปรับสูงขึ้น จากปัจจัยความไม่แน่นอนต่างประเทศ ทั้งสงครามการค้าสหรัฐและจีน เบร็กซิท การดำเนินนโยบายเศรษฐกิจและสถานการณ์การเมืองในต่างประเทศ เป็นต้น ดังนั้น ผู้ประกอบการธุรกิจนำเข้า-ส่งออกควรมีการบริหารความเสี่ยง โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) ซึ่งล่าสุด ธปท. ร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.) ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย(เอ็กซิมแบงก์) ได้มีการขยายโครงการบริหารความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนระยะที่ 2 พร้อมทั้งปรับปรุงรูปแบบโครงการให้มีความยืดหยุ่นและเพิ่มความสะดวกให้แก่เอสเอ็มอีมากขึ้น โดยเพิ่มช่องทางการอบรมผ่าน e-Learning โดยสถาบันธนาคารไทยเป็นผู้พัฒนาหลักสูตร ทำให้เอสเอ็มอีสามารถอบรมและทำความเข้าใจวิธีการป้องกันความเสี่ยงได้ทุกที่ทุกเวลา โดยผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออกสามารถเข้าอบรมได้ทุกรายไม่มีค่าใช้จ่ายที่ www.exim.go.th/th/training.aspx
นางสาววชิรา กล่าวว่า หากเป็นเอสเอ็มอีที่เป็นสมาชิก สสว. ที่มีรายได้ไม่เกิน 400 ล้านบาทต่อปี ซึ่งมีอยู่ราว 44,000 หากเข้าร่วมโครงการจะได้รับวงเงินค่าธรรมเนียมสำหรับการทดลองทำประกันความเสี่ยงค่าเงิน(ออพชั่น) มูลค่า 50,000 บาท สามารถนำไปใช้ได้ที่ธนาคารพาณิชย์ที่ร่วมโครงการ 8 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ กรุงไทย กสิกรไทย กรุงศรีอยุธยา ซีไอเอ็มบีไทย ทหารไทย ไทยพาณิชย์ และยูโอบี ปัจจุบันมีเอสเอ็มอีเข้าร่วมโครงการแล้ว 3,900 ราย คาดว่าจะมีเอสเอ็มอีเข้าร่วมตามเป้าหมายโครงการที่ 5,000 ราย
