เมื่อวันที่ 23 เมษายน มีการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรือบอร์ดอีอีซี มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ณ ทำเนียบรัฐบาล
นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการสำนักงานสกพอ. หรืออีอีซี กล่าวว่า ที่ประชุมได้หารือถึงความคืบหน้าการขั้นตอนการดำเนินงาน โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) คาดว่าทุกโครงการจะเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)และลงนามภายในเดือนพฤษภาคมนี้ มูลค่าลงทุนมากกว่า 6.5 แสนล้านบาท เริ่มก่อสร้างครึ่งปีหลัง โดยมีรายละเอียดที่สำคัญ ดังนี้ 1.โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม3สนามบิน ล่าสุดกลุ่มกิจการร่วมค้า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร (กลุ่ม ซีพีเอช) ชนะประมูลและบรรลุข้อตกลงในการเจรจาเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2562 โดยขั้นตอนการดำเนินการต่อไปจะลงนามสัญญาร่วมลงทุนกับเอกชนที่ได้รับการคัดเลือก โดยคาดว่าขั้นตอนทั้งหมด จะแล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคม 2562
ขณะที่ 2.โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก เปิดรับเอกชนยื่นข้อเสนอโครงการฯ มีผู้ยื่นข้อเสนอ 3 กลุ่ม คือ กลุ่มกิจการร่วมค้าบีบีเอส กลุ่ม Grand Consortium และกลุ่มกิจการค้าร่วม บริษัท ธนโฮลดิ้ง จากัด และพันธมิตร โดยขณะนี้ คณะกรรมการคัดเลือกฯ อยู่ระหว่างการประเมินขัอเสนอ และคาดว่าจะพิจารณาข้อเสนอแล้วเสร็จ และประกาศผลผู้ผ่านการประเมินที่ให้ผลประโยชน์ตอบแทนสูงสุดได้ภายในพฤษภาคม 2562
3.โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 เปิดให้เอกชนยื่นข้อเสนอโครงการฯ ยื่นข้อเสนอ จำนวน 1 กลุ่มคือ กลุ่มกิจการร่วมค้า ได้แก่ กัลฟ์และพีทีทีแทงค์ โดยขณะนี้ คณะกรรมการคัดเลือกอยู่ระหว่างการประเมินข้อเสนอ คาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถเจรจากับภาคเอกชนได้ภายในเดือนเมษายน 2562 4.โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ท่าเทียบเรือ F เปิดรับให้เอกชนยื่นข้อเสนอโครงการฯ มีเอกชนยื่นข้อเสนอ 2 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มกิจการร่วมค้า จีพีซี 2.กลุ่มกิจการร่วมค้า เอ็นซีพี แต่ล่าสุดมีเพียงกลุ่มจีพีซีที่ผ่านการพิจารณา คณะกรรมการคัดเลือกอยู่ระหว่างการประเมินข้อเสนอ และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคม 2562
