แบงก์ชาติห่วงไทยหนี้ครัวเรือนสูงสุด ขยายคลินิกแก้หนี้เฟส2 เริ่ม 15พค.นี้

วิรไท สันติประภพ

นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า สถานการณ์หนี้ครัวเรือนไทยยังอยู่ในระดับสูง ขึ้นลงอยู่ที่ระดับ 80% ของอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจประเทศ(จีดีพี) โดยจำนวนนี้ยังไม่รวมหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หนี้นอกระบบ เป็นต้น ซึ่งหนี้ครัวเรือนของไทยถือว่าสูงสุดหากเทียบกับประเทศพัฒนาในระดับเดียวกัน ซึ่ง ธปท. ได้ดำเนินโครงการคลินิกแก้หนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ที่ไม่มีหลักประกัน (บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล) ร่วมกับสมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ โดยมี บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด หรือ บสส.(SAM) เป็นผู้ดำเนินการสำหรับกลุ่มลูกหนี้ที่ผิดนัดชำระ 90 วันขึ้นไป(หนี้เสีย) ของธนาคารพาณิชย์ตั้งแต่ 2 แห่ง ล่าสุดได้ขยายแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดบริษัทบริหารสินทรัพย์. พ.ศ.2541 เพื่อให้ บสส. สามารถรับบริหารหนี้จากสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร(นอนแบงก์) ได้ จึงขยายโครงการคลินิกแก้หนี้ ระยะที่ 2 ทำให้ผู้ที่มีหนี้เสียของนอนแบงก์สามารถเข้าร่วมโครงการได้ โดยมีนอนแบงก์ 19 แห่ง อาทิ เฟิร์สช้อยส์ในเครือกรุงศรีคอนซูมเมอร์ บัตรกรุงไทยหรือเคทีซี พรอมมิส เมืองไทยแคปปิตอล ยูเมะพลัส อิออน เงินกู้สมใจ เป็นต้น เข้าร่วมโครงการ ทำให้เมื่อรวมกับธนาคารพาณิชย์ 16 แห่งที่ร่วมโครงการอยู่แล้ว จะมีผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการกว่า 35 แห่งทำให้โครงการคลินิกแก้หนี้ครอบคลุมสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลเกือบทั้งระบบ สามารถสมัครได้ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2562 เป็นต้นไป

“คลิกนิกแก้หนี้ดำเนินการมา 2 ปี มีลูกหนี้ติดต่อเข้าโครงการกว่า 3.7 หมื่นรายแต่คุณสมบัติไม่ตรงเพราะส่วนใหญ่เป็นหนี้นอนแบงก์และบางส่วนยังไม่เป็นหนี้เสีย จึงมีผู้เข้ารวมโครงการทั้งสิ้น 1,500 ราย เฉลี่ยเป็นหนี้เสียกับ 3 แห่ง วงเงินต่อรายราว 3 แสนบาท มีลูกหนี้ที่ชำระหนี้เสร็จสิ้นและออกจากโครงการจำนวน 16 ราย ทั้งนี้ข้อมูลลูกค้าที่มีหนี้เสียของธนาคารพาณิชย์และนอนแบงก์ ที่มีหนี้เสียตั้งแต่ 2 แห่งขึ้นไป มีกว่า 4.9 แสนราย มูลหนี้รวม 4.9 หมื่นล้านบาท คาดหวังเมื่อขยายคลินิกแก้หนี้คาดว่าหากมีลูกหนี้สามารถเข้าร่วมโครงการได้ถึงแสนราย ซึ่งจะเป็นผลดีต่อลูกหนี้และภาพสถานการณ์หนี้ครัวเรือนของไทย” นายวิรไท กล่าว
นายวิรไท กล่าวว่า นอกจากการแก้ไขปัญหาหนี้ ธปท. ยังมีการกำกับดูแลการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินผ่านเกณฑ์กำกับดูแลสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล เกณฑ์กำกับดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัยใหม่(มาตรการแอลทีวี) และมาตรการกำกับดูแลสินเชื่อจำนำทะเบียน รวมทั้ง การให้ความรู้ทางการเงินแก่ประชาชนเพื่อสร้างความเข้าใจให้กับประชาชน โดยเฉพาะยุคดิจิทัลที่ประชาชนจะสามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น

นางสาวณญาณี เผือกขำ ประธานชมรมสินเชื่อส่วนบุคคล กล่าวว่า ประชาชนที่เป็นหนี้เสีย บัตรเครดิต บัตรกด เงินสด หรือสินเชื่อส่วนบุคคล ของธนาคาร หรือนอนแบงก์ ที่เข้าร่วมโครงการ ตั้งแต่ 2 แห่งขึ้นไป ก่อนวันที่ 1 มกราคม 2562 ที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถติดต่อ บสส. โดยคุณสมบัติ เป็นบุคคลธรรมดาที่มีรายได้ อายุไม่เกิน 65 ปี มียอดเงินต้นค้างชำระไม่เกิน 2 ล้านบาท ไม่ถูกดำเนินคดี หรือ ถูกดำเนินคดีอยู่แต่ต้องยังไม่มีคำพิพากษา ซึ่งอัตราดอกเบี้ยผ่อนชำระขั้นต่ำ 4-7% สามารถผ่อนชำระได้ถึง 10 ปี ซึ่งจะทำให้ไม่ถูกทวงถามจากเจ้าหนี้หลายราย ทำสัญญาแก้หนี้เพียงฉบับเดียว สามารถแก้ไขหนี้หลายรายได้ครบจบในที่เดียว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image