นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดวันที่ 13 พฤษภาคม เปิดที่ระดับ 31.61 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าขึ้นจากช่วงปิดสิ้นสัปดาห์ก่อนที่ระดับ 31.59 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยสัปดาห์นี้ต้องจับตาฝั่งสหรัฐตลอดสัปดาห์จะมีคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับเศรษฐกิจและคาดว่าเฟดจะแสดงความเห็นเกี่ยวกับสงครามการค้าและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจสหรัฐรวมถึงทิศทางของดอกเบี้ยด้านตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐจะยังไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะสงครามการค้ายอดค้าปลีกเดือนเมษายนที่จะรายงานในวันที่ 15 พฤษภาคม มีแนวโน้มขยายตัวราว 0.4% จากเดือนก่อนหน้าขณะที่วันที่ 16 พฤษภาคม คาดว่าดัชนีภาวะภาคธุรกิจโดยเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียจะปรับตัวขึ้นแตะระดับ 11 จุด สะท้อนถึงมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้นต่อแนวโน้มการดำเนินธุรกิจในสหรัฐจากการจ้างงานที่อยู่ในระดับสูง
นายจิติพลกล่าวว่า ฝั่งเอเชียต้องจับตารายงานข้อมูลเศรษฐกิจจีนที่จะมีการประกาศในวันที่ 15 พฤษภาคม ตลาดคาดว่ายอดการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรจะขยายตัว 6.4% ยอดค้าปลีกเติบโต 8.6% และยอดการผลิตอุตสาหกรรมพื้นตัวขึ้นถึงระดับ 6.5% และถ้าเศรษฐกิจขยายตัวได้ตามคาดก็จะสามารถตีความได้เช่นกันว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจในจีนขยายตัวได้ต่อพร้อมที่จะต่อสู้ในสงครามการค้ากับสหรัฐ
นายจิติพลกล่าวว่า สัปดาห์นี้ต้องติดตามทิศทางของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นหลักเนื่องจากดอลลาร์สหรัฐทยอยอ่อนค่าลงตั้งแต่สงครามการค้ากลับมาสร้างความผันผวน นอกจากนั้นก็ต้องระวังว่าเฟดอาจออกมาส่งสัญญาณว่าจะต้องคงดอกเบี้ยนโยบายยาวด้วย ซึ่งก็จะกดดันดอลลาร์สหรัฐให้อ่อนค่าลง ขณะที่ฝั่งสกุลเงินเอเชียเชื่อว่าจะกลับมาแข็งค่าได้ตามทิศทางของดอลลาร์สหรัฐเช่นกัน อย่างไรก็ดี ความเสี่ยงหลักจะอยู่ที่ตัวเลขเศรษฐกิจจีนซึ่งถ้ามีสัญญาณชะลอตัวลงอาจส่งผลให้นักลงทุนกลับมามีความกังวลและเข้าถือสินทรัพย์ปลอดภัยก่อนคาดกรอบเงินบาทในวันนี้ 31.50 ถึง 31.60 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และกรอบเงินบาทสัปดาห์นี้ 31.35 ถึง 31.85 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
