บอร์ดกฟผ.จ่อเคาะผู้ชนะประมูลจำหน่ายแอลเอ็นจี 1.5 ล้านตัน เบื้องต้นปิโตรนาสเสนอราคาต่ำสุด -ด้านปตท.ราคายังไม่ผ่าน คาดจะลงนามในสัญญามิ.ย.นี้
แหล่งข่าวจากคณะกรรรมการบริหารการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(บอร์ดกฟผ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการคัดเลือกผู้จำหน่ายก๊าซธรรมชาติเหลว(แอลเอ็นจี) 1.5 ล้านตันต่อปีให้กฟผ. ว่า เร็วๆนี้บอร์ดกฟผ.จะประชุมพิจารณาผลการคัดเลือกผู้จำหน่ายแอลเอ็นจี 1.5 ล้านตันต่อปี ซึ่งกฟผ.ได้เปิดให้มีการยื่นข้อเสนอการแข่งขันด้านราคาเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ -18 เมษายน 2562 มีผู้มายื่นเสนอ 12 รายจากบริษัทที่ผ่านคุณสมบัติ 34 ราย โดยคณะทำงานได้พิจารณาคัดเลือกให้ปิโตรนาสแอลเอ็นจีประเทศมาเลเซียเป็นผู้ชนะการประมูลดังกล่าว
แหล่งข่าวกล่าวว่า 12 รายชื่อที่เสนอขายแอลเอ็นจี แก่ กฟผ. ประกอบด้วย 1.Chevron U.S.A. Inc 2.Total Gas & Power Asia Private Limited 3.Marubeni Corporation 4.Emirates National Oil Company (Singapore) Private Limited 5.Qatargas 6.JERA Co. Inc 7.Pavilion Gas Pte. Ltd. 8.PETRONAS LNG Limited 9.PTT Public Company Limited 10.Shell Eastern Trading (Pte) Ltd. 11.BP Singapore Pte. Limited และ 12.Vitol Asia Pte. Ltd.
“พบว่า ปตท.เป็น 1 ใน 12 รายที่เสนอขายแต่คณะทำงานคัดเลือกให้ปิโตรนาสแอลเอ็นจี ประเทศมาเลเซียเป็นผู้ชนะ โดยพิจารณาจากหลักเกณฑ์ราคาที่ต้องมีส่วนลดสูงสุดเมื่อเทียบกับราคานำเข้าของสัญญาระยะยาวทุกสัญญาปตท.เป็นผู้นำเข้าหลักของไทย เพื่อให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าต่ำที่สุด โดยค่าเฉลี่ยราคาแอลเอ็นจีต่ำสุดที่ปตท.นำเข้าจะอยู่ประมาณ 8-9 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู”แหล่งข่าวกล่าว
นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ขณะนี้รอบอร์ด กฟผ.เสนอผลคัดเลือกอย่างเป็นทางการ โดยโจทย์สำคัญ คือ ต้นทุนค่าไฟฟ้าต้องต่ำ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อภาคประชาชนและเป็นไปตามนโยบายการแข่งขันการนำเข้าแอลเอ็นจี โดย กฟผ.จะเป็นผู้นำเข้ารายที่ 2 จากเดิมที่มี ปตท.นำเข้าเป็นรายเดียว และใช้สถานีมาบตาพุด จ.ระยอง ของ ปตท.เป็นสถานีแปรสภาพ และขนส่งผ่านท่อของ ปตท.
นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวว่า เมื่อคัดเลือกตามกระบวนการเสร็จสิ้นทั้งหมด คาดว่าจะสามารถลงนามสัญญาซื้อขายแอลเอ็นจีภายในเดือนมิถุนายน 2562 และจะเริ่มส่งมอบแอลเอ็นจีล็อตแรกเดือนกันยายน 2562 โดยสัญญาปีแรกอยู่ที่ 280,000 ตัน/ปี เป็นสัญญา 8 ปี โดยข้อกำหนดให้ยื่นข้อเสนอตั้งแต่ระดับ 800,000 – 1.5 ล้านตัน/ปี
