นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า สงครามการค้ากำลังเกิดขึ้นน่าจะสร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลใหม่ที่ออกนโยบายบายมาดูแล และบริการจัดการเศรษฐกิจของไทยให้โตเต็มศักยภาพ 4-5% โดยในส่วนของคลังขณะนี้ยังมั่นใจว่าปีนี้จะโตได้ 3.8% แม้ว่าจะมีหลายแห่งที่ปรับลดลงคาดการจีดีพีต่ำกว่านี้
“นโยบายพยุงเศรษฐกิจกลางปีที่คลังออกไปเมื่อเดือนเมษายน จะเพียงพอดูแลเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 2 แต่ขณะนี้ปัญหาสงครามการค้าที่เริ่มรุนแรงขึ้น ถ้ารัฐบาลใหม่อยู่เฉยๆ อาจทำให้เศรษฐกิจต่ำกว่าที่ประเมินไว้ ดังนั้นเป็นหน้าที่ของรัฐบาลใหม่ที่ต้องมาดูแลต่อเหมือนที่รัฐบาลชุดนี้ทำมาเมื่อช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา โดยรัฐบาลใหม่ ไม่ควรปล่อยให้เศรษฐกิจเป็นไปตามยถากรรม”นายอภิศักดิ์ กล่าว
นายอภิศักดิ์กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีสหรัฐอาจจัดไทยอยู่ในประเทศแทรกแซงค่าเงิน นั้นหากสหรัฐจัดไทยอยู่ในประเทศกลุ่มดังกล่าวจริง เชื่อว่า จะไม่มีผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทยนัก เพราะสหรัฐอาจใช้มาตรการเข้ามาจัดการ ซึ่งไทยจะไม่ได้รับผลกระทบ อาทิ เรื่องของการตัดเงินช่วยเหลือ ซึ่งขณะนี้ ไทยก็ไม่ได้รับเงินช่วยเหลือใดจากสหรัฐ ขณะเดียวกัน การเจรจาการค้ารอบใหม่หรือFTA ไทยกับสหรัฐก็ไม่มีการเจรจา โดยไทยเกินดุลสหรัฐที่ 19.5 หมื่นล้านเหรียญ ยังไม่ถึงเกณฑ์ 2 หมื่นล้านเหรียญ โ แต่หากจัดให้ไทยอยู่ในกลุ่ม ก็คงต้องเจรจากันไป
