รายงานข่าวจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานว่า แนวโน้มค่าเงินบาทวันที่ 20-24 พฤษภาคม ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 31.60-32.00บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยจุดสนใจในประเทศน่าจะอยู่ที่ตัวเลขอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจ(จีดีพี) ไตรมาส 1 ปี 2562 การส่งออกเดือนเมษายน และสถานการณ์ทางการเมือง ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญ ได้แก่ ประเด็นการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ทิศทางค่าเงินหยวน ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) และดัชนี PMI (เบื้องต้น) เดือนพฤษภาคม ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐระหว่างสัปดาห์ ประกอบด้วย ยอดขายบ้านมือสอง ยอดขายบ้านใหม่ และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนเม.ย. รวมถึงบันทึกการประชุมเฟด (30 เมษายน.-1 พฤษภาคม) ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาเงินบาททยอยอ่อนค่าลงในช่วงปลายสัปดาห์เช่นเดียวกับสกุลเงินในภูมิภาคท่ามกลางความไม่แน่นอนของประเด็นทางการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ประกอบกับเงินดอลลาร์สหรัฐมีปัจจัยหนุนเพิ่มเติมจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ดีกว่าที่คาด เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม เงินบาทอยู่ที่ 31.74 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับระดับ 31.59 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ในวันที่ 10 พฤษภาคม
ด้านดัชนีหุ้นไทย คาดมีแนวรับที่ 1,600 และ 1,590 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่1,620 และ 1,630 จุด โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ความคืบหน้า การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1 ปี 2562 ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดระดับสูงและสถานการณ์ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญ ได้แก่ บันทึกการประชุมเฟด ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดขายบ้านใหม่และบ้านมือสองเดือนเมษายน ดัชนี PMI (เบื้องต้น) เดือนพฤษภาคม ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ดัชนี PMI (เบื้องต้น) สำหรับเดือนพฤษภาคมของยูโรโซน รวมถึงจีดีพีไตรมาส 1 ปี 2562 และดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนเมษายนของญี่ปุ่น
