เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม นายปนิธิ เสมอวงษ์ รองอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวถึงสถานการณ์พื้นที่ประสบภัยแล้งเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2562 ว่า พื้นที่เขตจังหวัดที่ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยแล้งยังคงเป็น 7 จังหวัด 17 อำเภอ 60 ตำบล 442 หมู่บ้าน ส่วนสถานการณ์ปริมาณน้ำในเขื่อน/อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางที่มีปริมาณน้ำน้อยกว่า 30% ของปริมาณน้ำใช้การ ยังคงมีจำนวนอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 18 แห่ง และอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 194 แห่ง โดยกรมฝนหลวงจะเร่งปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง เมื่อสภาพอากาศเหมาะสมเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำในพื้นที่ลุ่มรับน้ำ และขอความร่วมมือประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัด
นายปนิธิกล่าวว่า สำหรับผลการปฏิบัติการฝนหลวง หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง 8 หน่วย ได้แก่ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.เชียงใหม่ พิษณุโลก กาญจนบุรี อุดรธานี นครราชสีมา จันทบุรี สุราษฎร์ธานี และสงขลา ได้ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรที่ประสบปัญหาภัยแล้ง พื้นที่เสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค และเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักให้แก่พื้นที่ลุ่มรับน้ำ ทำให้มีฝนตกบริเวณพื้นที่บางส่วนของ จ.เชียงใหม่ ขอนแก่น หนองบัวลำภู กาญจนบุรี ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สงขลา พัทลุง รวมถึงสามารถเพิ่มปริมาณน้ำให้กับพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนภูมิพล เขื่อนอุบลรัตน์ และอ่างเก็บน้ำคลองสียัด ขณะที่หน่วยปฏิบัติการ จ.นครราชสีมา และสุราษฎร์ธานี ไม่มีฝนตกจากการปฏิบัติการ เนื่องจากกลุ่มเมฆเป้าหมายไม่สามารถพัฒนาตัวเป็นเมฆฝนได้
นายปนิธิกล่าวว่า ด้านผลตรวจคุณภาพอากาศจากกรมควบคุมมลพิษ พบว่าบริเวณพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลอยู่ในเกณฑ์ดีถึงดีมาก มีเพียงที่บริเวณ ต.หน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี ยังอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง ด้านผลการตรวจสภาพอากาศของสถานีเรดาร์สัตหีบ จ.ชลบุรี พบว่ามีความชื้นที่ระดับการเกิดเมฆ 68% ความชื้นที่ระดับการพัฒนาตัวของเมฆ 55% และค่าดัชนีการยกตัวของอากาศ -2.6 หน่วยปฏิบัติการ จ.จันทบุรี จึงขอติดตามสภาพอากาศในช่วงบ่าย หากมีการเปลี่ยนแปลงและเข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวงจะวางแผนช่วยเหลือบริเวณพื้นที่การเกษตรตอนล่างของ จ.สระแก้ว และปราจีนบุรี โดยกรมฝนหลวงและการบินเกษตรจะเร่งปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อช่วยเหลือพื้นที่ที่ประสบปัญหาภัยแล้ง ไฟป่าหมอกควัน พายุลูกเห็บ และภัยพิบัติทางธรรมชาติรูปแบบต่างๆ ในทุกพื้นที่ทันทีเมื่อสภาพอากาศเอื้ออำนวย ทั้งนี้ สามารถแจ้งการขอรับบริการฝนหลวงได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงในทุกภูมิภาคของประเทศ และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารได้ทางเว็บไซต์เพจเฟซบุ๊ก กรมฝนหลวงและการบินเกษตร
