จากกรณีชาวบ้านบ้านศาลาดิน ต.ศรีสุขสำราญ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น และหมู่บ้านใกล้เคียงกว่า 20 คน แห่ซื้อบัตรสมาร์ทการ์ด ที่อ้างว่ามีสรรพคุณในการรักษาสารพัดโรค โดยเฉพาะอาหารปวดเมื่อยต่างๆ ตามร่างกาย โดยวิธีการใช้ คือ นำบัตรไปแตะบริเวณที่ปวด หรือนำแก้วน้ำไปวางบนบัตร และอธิษฐาน จากนั้นนำมาดื่ม และอีกวิธีหนึ่ง คือการนำเอาบัตรไปจุ่มในแก้วน้ำ แล้วนำมาดื่ม ซึ่งวิธีเหล่านี้สามารถช่วยอาการปวดให้ทุเลาลงได้ ซึ่งก่อนจะได้บัตรนี้มา มีคนจากบริษัทแห่งหนึ่งมาชักชวนให้เข้าอบรม และสาธิตสรรพคุณของบัตรให้ดู โดยให้ผู้เข้าอบรมสมัครเป็นสมาชิก เพื่อจะได้สมาร์ทการ์ดที่ซื้อไปในราคา 4,400 บาท ได้บัตรมา 5 ใบ และนำไปบอกต่อคนที่สนใจ โดยขายให้ในราคา 1,100-1,500 บาท หากขายได้ และมีสมาชิกเพิ่ม จะได้เงินเพิ่มเข้ามาในบัญชีนั้น
เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า ได้ตรวจสอบบัตรดังกล่าวแล้ว พบว่าบัตรดังกล่าวไม่ได้จดแจ้งขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อตรวจสอบรายละเอียดข้อความ และคิวอาร์โค้ดภายในบัตร ก็ไม่พบว่ามีข้อมูลปรากฎในสารระบบ น่าเชื่อว่าเป็นการหลอกลวงผู้บริโภค ที่สำคัญตามหลักการแพทย์แล้ว การนำบัตรซึ่งเป็นพลาสติกแข็งมาแปะตามร่างกาย ไม่สามารถใช้รักษาโรคใดๆ ได้ตามที่แอบอ้าง แม้ชาวบ้านบางรายจะระบุว่า สามารถช่วยรักษาอาการปวดตามร่างกายได้นั้น ไม่ได้เกิดจากบัตรโดยตรง แต่อาจมาจากการทานยาควบคู่ไปด้วย และอยู่ในภาวะที่มีที่พึ่งทางจิตใจ จึงทำให้เชื่อว่าที่อาการต่างๆ ดีขึ้นมาจากบัตรพลังงาน แต่ในทางการแพทย์แล้วยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง บัตรไม่สามารถนำมารักษาโรคได้
ด้านนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ได้รับรายงานดังกล่าวแล้ว พร้อมทั้งได้กำชับทุกอำเภอให้สอดส่องดูแล และทำความเข้าใจกับชาวบ้าน ที่คิดจะใช้ ให้หยุดใช้ และไม่หาซื้อ เพราะนอกจากจะไม่มีประโยชน์ใดๆ กับร่างกาย ยังอาจตกเป็นเหยื่อของกลุ่มคนที่แอบอ้างได้ โดยเบื้องต้นทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ไปพบชาวบ้านที่ใช้บัตร และสืบสวนหาตัวกลุ่มคนที่เป็นเจ้าของบัตรด้วย เพราะการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายการหลอกลวงประชาชน มีความผิดตามกฎหมาย
