นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดเก็บเงินค่าประกันภัยและประกันชีวิตจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ตามที่ระบุไว้ในพระราชบัญญัตินโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2562 ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้วเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการหารือกับผู้ประกอบการ ในการหาอัตราจัดเก็บเงินเพิ่มจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่คาดว่าจะไม่เกิน 100 บาท เนื่องจากมองว่าน่าจะเป็นตัวเลขที่เพียงพอและไม่สูงมากนัก
“จะเปิดให้ภาคเอกชนเข้ามาทำงานร่วมกับภาครัฐในการดูแลเรื่องนี้ด้วยกัน เพราะเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากเรื่องนี้โดยตรง ส่วนหน่วยงานใดจะเป็นผู้รับผิดชอบจัดการบริหารเงินส่วนนี้ ตามกฎหมายมีกำหนดไว้แล้ว ซึ่งก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายที่มี เพื่อให้เป็นไปตามจุดประสงค์หลักที่ตั้งใจแต่แรกคือ การนำเงินส่วนนี้มาจ่ายเป็นค่าประกันภัยและประกันชีวิตให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ แทนที่รัฐบาลต้องแบกภาระในส่วนนี้ปีละกว่า 300 ล้านบาทต่อปี”นายโชติกล่าว
นายโชติ กล่าวว่า ภาคการท่องเที่ยวขณะนี้ยังมีปัญหาหลักคือ ความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทย จึงมองว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนเรื่องแรกที่ควรแก้ไข เพราะที่ผ่านมาพบว่า มีนักท่องเที่ยวประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนโดยเฉพาะใช้ยานพาหนะเป็นรถจักรยานยนต์ จึงสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเก็บข้อมูลของร้านเช่ารถจักรยานยนต์และการใช้บริการของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และหารือกับคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัด (คปจ.) ซึ่งคาดว่าจะได้ตัวเลขที่ชัดเจนภายใน 1-2 สัปดาห์ต่อจากนี้ โดยในวันที่ 5-6 กรกฎาคมนี้ จะมีการหารือร่วมกับคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งมีนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นคณะกรรมการ เพื่อยกร่างกฎหมายใหม่ให้ครอบคลุมความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวในทุกมิติยิ่งขึ้น
กล่าวว่า สำหรับทิศทางจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติพบว่า ในช่วงเดือนมกราคมถึงเมษายน ตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังเติบโตได้ดี ถึงแม้จะเป็นการเติบโตแบบชะลอตัว เพราะช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมามีผู้ประกอบการบางรายให้ข้อมูลว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเที่ยวไทยเงียบเหงากว่าเดิมค่อนข้างมาก ซึ่งสาเหตุหลักคาดว่าน่าจะมาจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว จึงส่งผลกระทบมาถึงเรื่องท่องเที่ยวด้วย อย่างไรก็ตามยังมองว่าครึ่งหลังของปี 2562 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังอยู่ในทิศทางที่ดีและมีแนวโน้มที่ยังโตได้อยู่ โดยเชื่อว่าเป้าหมายการท่องเที่ยวที่ 40 ล้านคนจะต้องเป็นไปได้อย่างแน่นอน เพราะขณะนี้ก็มีมาตรการฟรีวีซ่าที่ขยายเวลาจนถึงเดือนตุลาคม 2562 ช่วยกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวอยากเดินทางมาเที่ยวไทยได้ในระดับหนึ่ง ซี่งผู้ประกอบการก็พอใจกับมาตรการหนุนที่ภาครัฐพยายามช่วย
เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว
