ป.ป.ส.จับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ รวบอดีตนายก อบต.เพชรบูรณ์ผู้ต้องหาระดับสั่งการ
เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 มิถุนายน คณะเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปปส.และชุดสยบไพรี พร้อม ทหาร ตำรวจ ตชด.และฝ่ายปกครองในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ จำนวน 95 นาย นำโดย พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด สนธิกำลังเปิดปฎิบัติการ ภายใต้ยุทธการสยบไพรี 62/14 ตอน “ENDGAME”ภาค 2 จุดจบซาตานแดนอีสาน ขยายผลตรวจค้นเครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติดในเขตพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่จับกุมนายสมบัติ เลือดทหาร อดีตรองนายก อบต.ระวิง อ.เมืองเพชรบูรณ์ ผู้ต้องหา 1 ใน 2 ตามหมายจับศาลคดียาเสพติด
ซึ่งเครือข่ายยาเสพติดรายนี้เป็นเครือข่ายยาเสพติดในระดับสั่งการ เนื่องจากทำให้ยาเสพติดถูกแพร่กระจายเข้าสู่เมืองชั้นในของประเทศ โดยทางคณะเจ้าหน้าที่แบ่งกำลังออกเป็น 7 ชุด นำอดีตรองนายกอบต.ถูกจับกุมตกเป็นผู้ต้องหาก่อนหน้านี้ไปทำการตรวจค้นบ้านพักในเขต อ.เมืองเพชรบูรณ์และพื้นที่บริเวณข้างเคียง ส่วนนายไพรรัตน์ เลือดทหาร น้องชายอดีตนายกฯเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับอีกรายที่ยังอยู่ระหว่างหลบหนี
อย่างไรก็ตาม ในการตรวจค้นขยายผลในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตรวจยึดทรัพย์สินและตรวจสอบจำนวนหลายสิบรายการ ซึ่งเป็นของ 2 ผู้ต้องหาและบุคคลที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นมีมูลค่าราว 50 ล้านบาท อาทิ ปืนพัก, พระเครื่องเลี่ยมทอง บ้านพัก รถจักรยานยนต์และรถยนต์ ฯลฯ ตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 และพ.ร.บป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542
รายงานข่าวแจ้งว่า ระหว่างคณะเจ้าหน้าที่ตรวจค้นบ้านพัก ทางอดีตรองนายกอบต.ได้ปฏิเสธไม่ได้เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดยาไอซ์ยาอี ไม่เคยรู้จัก ที่ผ่านมาประกอบอาชีพเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง ขุดดินมีรถแม็คโคร โดยอดีตรองนายก อบต.รายนี้ยืนยันว่าก็ไม่ทราบเหมือนกันว่ามีชื่อไปเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดได้อย่างไร ที่ผ่านมาก็ใช้ชีวิตปกติ และหากทำความผิดก็ไม่อยู่ที่นี่พร้อมจะหลบหนีไปเรียบร้อยแล้ว โดยอดีตรองนายกยืนกรานว่าตัวเองบริสุทธิ์อีกด้วย
ทั้งนี้ ยังมีรายงานข่าวแจ้งด้วยว่า สำหรับเส้นทางเครือข่ายยาเสพติดรายนี้ ทางเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ได้มีการเกาะติดอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ระยะเกือบ 3 ปีในการเก็บข้อมูลและตรวจสอบ จนไปสู่การรวบรวมหลักฐานยื่นต่อศาลฯเพื่อออกหมายจับ 2 ผู้ต้องหาดังกล่าว ทั้งนี้ ตามข้อมูลของทางเจ้าหน้าที่พบว่า ผู้ต้องหารายนี้เป็นนักค้ายาเสพติดระดับสั่งการครั้งละจำนวนมากๆ และมีกลุ่มการเชื่อมโยงกับขบวนการค้ายาเสพติดราวถึง 7 คดี
โดยเส้นทางลำเลียงรับยาเสพติด ได้แก่ อ.รัตนวาปี จ.บึงกาฬ, อ.สังคม จ.หนองคาย และจุดรับมอบยาเสพติดอ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยคดีที่เจ้าหน้าที่มีการจับกุมและขบายผล กระทั่งมีข้อมูลพาดพิงเขื่อมโยงถึงเครือข่ายยาเสพติดรายนี้ได้แก่ คดีที่ 1วันที่ 31 มกราคม 2561 จับยาบ้า 400000 เม็ด ไอซ์ 22 กิโลกรัม อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี, คดีที่ 2 วันที่ 30 พฤษภาคม 2561 จับยาบ้า 200,000 เม็ดละ 25 กิโลกรัม กัญชา 80 กิโลกรัม อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์, คดีที่ 3 วันที่ 28 กรกฎาคม 2560 ไอซ์ 400 กิโล อ.เมือง จ.ขอนแก่น, คดีที่ 4 วันที่ 2 ตุลาคม 2561 จับกัญชา 458 กิโลกรัม อ.หนองหาน จ.อุดรธานี คดีที่ 5 พฤษภาคม 2562 จับกัญชา 444 กิโล อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ จุดรับมอบยาเสพติดอ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
ล่าสุดได้รับรายงานแจ้งว่า เวลา 11.00 น.วันเดียวกัน พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร ลงพื้นที่จ.เพชรบูรณ์เพื่อร่วมแถลงข่ายการขยายผลปฏิงัติการตามยุทธการสยบไพรี 62/14 ร่วมกับตัวแทนหน่วยงานที้เกี่ยวข้องในพื้นที่
