นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า กรมฯเตรียมหารือกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขหนี้สมาชิกสหกรณ์กว่า 1.7 แสนล้านบาท และให้พักหนี้สมาชิก 3 ปี พร้อมให้ทุนสมาชิกกู้เพื่อสร้างรายได้ ซึ่งขณะนี้ได้คุยกับสหกรณ์การเกษตรแล้ว 5 ภาค เหลือแค่ภาคอีสานและภาคกลางเท่านั้น จึงตั้งเป้าหมายว่าภายในต้นเดือนกรกฎาคมนี้ จะสามารถหาแนวทางในการดำเนินการต่อไปที่ชัดเจนมากขึ้นได้ ซึ่งต้องได้แนวทางที่ชัดเจนก่อน และหากพบว่ามีส่วนใดที่เกี่ยวข้องกับธ.ก.ส. ก็จะนำข้อมูลทั้งหมดเข้าหารือร่วมกัน
“ที่ผ่านมาพบว่าหนี้ที่มีปัญหาส่วนใหญ่มาจากการที่สมาชิกของสหกรณ์ ไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ ทำให้เกิดหนี้ผูกพันธ์มาถึงสหกรณ์ จึงได้ชวนสหกรณ์การเกษตรมาหาแนวทางการแก้ไขร่วมกัน ว่าจะมีการพักชำระหนี้ หรือหยุดชำระหนี้อย่างไร รวมถึงจะส่งเสริมให้เกษตรกรมีอาชีพ ที่สามารถทำรายได้จากอาชีพเกี่ยวกับการเกษตรจริงๆ เพื่อให้นำรายได้จากการเกษตรมาชำระหนี้ได้ ไม่ใช่นำรายได้หรือเงินจากส่วนอื่นมาชำหนี้แทน โดยจะให้สหกรณ์ทั่วประเทศลงพื้นที่ เพื่อหาสมาชิกที่มีความสามารถในการทำเกษตร แต่อาจเป็นหนี้เพราะเจอปัญหาที่ไม่คาดคิด อาทิ น้ำท่วม ภัยแล้ง หรือภัยธรรมชาติต่างๆ เพื่อพิจารณาการจัดการหนี้กับสมาชิกกลุ่มนี้ก่อน”นายพิเชษฐ์กล่าว
นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า ได้เตรียมโครงการส่งเสริมการเพิ่มรายได้ให้กับสมาชิกสหกรณ์การเกษตรทั่วประเทศ เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้ เสริมสภาพคล่องทางการเงินให้กับสมาชิกสหกรณ์ให้มากขึ้น เพิ่มเติมจากรายได้จากปลูกพืชชนิดเดียวหรือรอรายได้จากการเก็บเกี่ยวผลผลิตปีละเพียงหนึ่งครั้ง ซึ่งอาจทำให้เกษตรกรมีรายได้ไม่พอจ่าย และกระทบต่อการชำระหนี้กับสหกรณ์หรือสถาบันการเงิน สนับสนุนให้มีการปรับเปลี่ยนอาชีพทางการเกษตร ยกตัวอย่าง เดิมเคยปลูกมันสำปะหลังแล้วรายได้ไม่พอใช้ เป็นหนี้จำนวนมาก ก็เปลี่ยนมาเลี้ยงโคขุน อาจจะเลี้ยงจำนวนไม่มากนัก แต่ใช้แรงน้อยและได้เงินมากกว่า เรียกว่าเป็นอาชีพที่ทำน้อยแต่ได้มาก หรืออาชีพที่ตลาดมีความต้องการมากกว่าแทน
เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว
