เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผีตาโขนเป็นประเพณีบุญหลวงและการละเล่นผีตาโขน ซึ่งเป็นประเพณีมาแต่โบราณของชาวอําเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย จัดขึ้นทุกปี โดยปีนี้ได้กำหนดขึ้นระหว่างวันที่ 5-7 กรกฎาคมนี้ ซึ่งประเพณีนี้จะมีลักษณะที่แสดงออกถึงความสนุนสนานบรรดาผีตาโขน หัวผีตาโขนซึ่งเป็นหน้ากากที่ทำมาจากหวดนึ่งข้าวและทางมะพร้าวตัดเป็นรูปหน้าและประกอบจมูกยื่นยาว ตัด รูปตาและเขียนลวดลายตามความถนัดของช่างแต่ละคน แต่ปัจจุบันเริ่มขาดแคลนวัตถุที่สำคัญเพื่อทำหน้ากาก เช่น ทางมะพร้าว หายากขึ้น ต้องออกหาซื้อตามจังหวัดไกลๆ ชาวบ้านด่านซ้าย จึงอยากวิงวอนภาครัฐสนับสนุนการปลูกมะพร้าวในพื้นที่ หวั่นเอกลักษณ์จะสูญหาย เพราะปัจจุบันชาวบ้านเริ่มเอาไม้อัดมาทำหน้ากากแทนทางมะพร้าว
นายวิธัช สุวรรณเกิด ผู้ใหญ่บ้านนาเวียงใหญ่ ต.ศรีสองรัก อ.ด่านซ้าย เปิดเผยว่า ในปัจจุบัน ช่วงปี 2 ปีที่ผ่านมา การทำหน้ากากผีตาโขน ชาวด่านซ้ายซึ่งมีกลุ่มทำหัตถกรรมซุ้มวัดต่างๆกว่า 30 กลุ่ม ที่ทำหัวหน้ากากผีตาโขน ซึ่งเป็นอัตลักษณ์ไม่เหมือนใครในโลก ทำมาจากวัตถุธรรมชาติล้วนๆ เช่นหวดนึ่งข้าวมาจากไม้ไผ่สาน ส่วนรูปหน้ากากทำมาจากทางมะพร้าว ทำให้หัวหน้ากากผีตาโขนเป็นที่ต้องการของนักท่องเที่ยวหาซื้อนำไปประดับตกแต่งตามร้านค้า ตามบ้าน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ในขณะปัจจุบันจังหวัดเลยได้ขาดแคลนวัตถุหลักที่จะเอามาทำหน้ากาก คือทางมะพร้าว ต้องไปหาซื้อทางมะพร้าวในต่างจังหวัด เช่นพิจิตร พิษณุโลก จนถึงนครสรรค์ ซึ่งจะมีราคาทางละ 400- 500 บาท ถ้าเป็นทางใหญ่ๆสวยๆราคาจะพุงถึงทางละ 1,000 กว่าบาทก็มี
นายวิธัช กล่าวว่า อยากจะให้จังหวัด หรือเกษตรจังหวัด ส่งเสริมการปลูกมะพร้าวในจังหวัดอยู่เรื่อยๆ เพราะทางมะพร้าวที่นำมาใช้ทำหน้ากากจะเป็นทางมะพร้าวที่มีอายุ 1-5 ปีเท่านั้น มะพร้าวที่ออกลูกแล้วไม่สามารถมาทำหน้ากากได้ เนื่องจากรูปทรงไม่ได้ นอกจากนี้ ที่อำเภอเชียงคาน สินค้าโอท็อปที่สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านมาก ก็เป็นมะพร้าวแก้ว แต่เชียงคานไม่มีมะพร้าวต้องไปซื้อถึงภาคใต้ จึงอยากวอนให้ภาครัฐสนับสนุนการปลูกมะพร้าวอย่างน้อยสวนละ 2 ต้น ทั้งจังหวัด เริ่มจากการสนับสนุนของ อบต.และของเทศบาลทุกแห่งในจังหวัดเลย ซึ่งที่หวาดหวั่นในขณะนี้ก็ได้มีบางกลุ่มเมื่อขาดวัตถุทางมะพร้าว ได้นำเอาไม้อัดมาดัดและทำเป็นรูปหน้ากาก ซึ่งจะขาดความเป็นเอกลักษณ์อัตลัษณ์ และนานๆไปกลัวสูญเสียการทำหน้ากากด้วยทางมะพร้าว
