คนส.แถลงกลางประชุมนานาชาติฟ้องโลกปม‘จ่านิว’จี้รัฐ 3 ข้อ(ชมคลิป)

คนส. แถลงกลางประชุมนานาชาติ ฟ้องโลกปม ‘จ่านิว’ จี้รัฐ 3 ข้อ

วันที่ 3 ก.ค. 62 ที่โรงแรมรอยัล ออร์คิด เชอราตัน เขตบางรัก กรุงเทพฯ มีการจัดการ Asia on the Rise? โดย Association for Asian Studies หรือ สมาคมเอเชียศึกษา ซึ่งมีนักวิชาการจากทั่วโลกเดินทางมาเข้าร่วมเพื่อนำเสนอผลงานและรับฟังการบรรยาย โดยเวลาประมาณ 12.00 น. เมื่อเสร็จสิ้นการประชุมในภาคเช้า เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส.) นำโดย ผศ.ดร.บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ รองคณบดีคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้แถลงการณ์ต่อหน้านักวิชาการนานาชาติ แสดงความกังวลต่อสถานการณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การทำร้ายนักกิจกรรมล่าสุดคือ นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว

คนส. เรียกร้องรัฐบาลในการดำเนินการ 3 ข้อ ได้แก่ 1.ผู้ที่ทำร้ายนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ จะต้องถูกจับกุมดำเนินคดี และรัฐบาลจะต้องให้หลักประกันว่าการละเมิดนักกิจกรรมด้านสิทธิมนุษยชนคนอื่นๆ จะต้องหมดสิ้นไป 2.ยกเลิกการดำเนินคดีต่อผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์กองทัพ ธุรกิจ และความชอบธรรมทั้งหลายโดยสุจริตใจ 3.ยกเลิกการไต่สวนขณะเดินทางเข้าประเทศและการล่วงละเมิดอื่นๆ ต่อนักวิชาการนานาชาติและนักกิจกรรมทางสังคมนานาชาติ

Advertisement

รายละเอียดดังนี้

แถลงการณ์เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส.)
 
คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก่อการรัฐประหารในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 หลังจากการปกครองใต้ระบอบเผด็จการทหารและการลิดรอนสิทธิมนุษยชนผ่านไป 5 ปี ก็มีการเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคม 2562 แต่แม้ว่าจะมีการเลือกตั้งแล้ว และประเทศดูราวจะกลับเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยแล้วภายใต้การนำของพรรคการเมืองที่สนับสนุนกองทัพ สถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนก็ยังไม่ดีขึ้นเลย
 
พวกเราในนามของเครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส.) มีความห่วงใยต่อความเสื่อมถอยลงของสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย การปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงออกยังคงส่งผลให้การถกเถียงแสดงความเห็นในที่สาธารณะอยู่ในภาวะเงียบงัน การล่วงละเมิดอย่างแยบยลและการใช้ความรุนแรงทางตรงต่อผู้สื่อข่าว นักวิชาการ และประชาชนทั่วไปผู้ท้าทายและต่อต้านระบอบอำนาจในปัจจุบัน เป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้และจำต้องหยุดยั้งในทันที
 
ประชาชนทั่วไป ทั้งในประเทศและผู้ลี้ภัยในต่างประเทศ ถูกลอบทำร้ายและทำให้สูญหายอันเนื่องมาจากการแสดงออกของพวกเขา ล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา นักกิจกรรมชื่อนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ผู้ที่เพิ่งสำเร็จการศึกษาและกำลังเตรียมตัวจะไปเริ่มศึกษาระดับปริญญาโทในต่างประเทศ ก็ถูกลอบทำร้ายอย่างโหดเหี้ยม สิรวิชญ์เป็นนักวิพากษ์การเมืองผู้แกร่งกล้าและแสดงออกอย่างต่อเนื่องถึงการต่อต้านระบอบเผด็จการทหารเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย ขณะนี้เขายังคงต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลอันเนื่องมาจากการบาดเจ็บอย่างสาหัส ส่วนผู้ลอบทำร้ายเขายังคงลอยนวล
 
นักวิชาการและนักศึกษาที่วิจารณ์ระบอบเผด็จการต่างถูกดำเนินคดี ไม่ก็ถูกละเมิดในรูปแบบต่างๆ หลังการประชุมวิชาการนานาชาติด้านไทยศึกษาในปี 2560 นักศึกษาและนักวิชาการรวม 5 คนผู้ซึ่งแสดงออกในการต่อต้านการคุกคามของเจ้าหน้าที่ทหารในงานประชุมวิชาการถูกดำเนินคดี หลังการต่อสู้ทางกฎหมาย ศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าวเมื่อเดือนธันวาคม 2561 ตั้งแต่นั้นมา มีคดีความลักษณะนี้ไม่ต่ำกว่า 10 คดีที่พุ่งเป้าไปยังนักวิชาการที่ทำกิจกรรมทางการเมืองวิจารณ์กองทัพและกลุ่มธุรกิจที่มีสัมพันธ์กับกองทัพ
 
พวกเรายังกังวลอีกด้วยว่า การสอดส่องและล่วงละเมิดสิทธินี้ได้ขยายวงไปเกินกว่าประชาชนชาวไทยแล้ว ระบอบเผด็จการปัจจุบันได้ละเมิดสิทธินักวิชาการนานาชาติจากสหรัฐอเมริกา ยุโรป และออสเตรเลีย ในขณะที่พวกเขาเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ชื่อของพวกเขาอยู่ใน “รายชื่อผู้ถูกเฝ้าระวัง” นักวิชาการเหล่านี้มีคุณูปการต่อประเทศไทย ทั้งในฐานะทูตวัฒนธรรมและการศึกษา พวกเขาเป็นครูบาอาจารย์ของนักเรียนไทยที่ศึกษาในประเทศเหล่านั้น และพวกเขายังอุทิศตนทำงานในโครงพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวไทยเป็นจำนวนมาก
 
ณ ช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านอันสำคัญ ที่ทุกคนหวังว่าประเทศไทศกำลังก้าวจากระบอบเผด็จการไปสู่ประชาธิปไตยนี้ พวกเราขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยดำเนินการต่อไปนี้
1. ผู้ที่ทำร้ายนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์จะต้องถูกจับกุมดำเนินคดี และรัฐบาลจะต้องให้หลักประกันว่าการละเมิดนักกิจกรรมด้านสิทธิมนุษยชนคนอื่นๆ จะต้องหมดสิ้นไป
2. ยกเลิกการดำเนินคดีต่อผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์กองทัพ ธุรกิจ และความชอบธรรมทั้งหลายโดยสุจริตใจ
3. ยกเลิกการไต่สวนขณะเดินทางเข้าประเทศและการล่วงละเมิดอื่นๆ ต่อนักวิชาการนานาชาติและนักกิจกรรมทางสังคมนานาชาติ
 
เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส)
 
แถลงในงานประชุม AAS-in-Asia 2019: Asia on the Rise?

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image