พบ ‘นกเงือก’ บินเกาะต้นไม้ แจ้ง จนท.จับ คาดเป็นนกเลี้ยง เตือนผิด พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ป่า
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 9 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 จ.พิษณุโลก เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถานพิษณุโลก ได้นำนกเงือกที่ช่วยกันจับมาได้จากบ้านในเขตเทศบาลนครพิษณุโลก ภายหลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าได้บินมาเกาะต้นไม้ของชาวบ้าน
โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ยืนยันว่านกที่พบนั้นคือนกแก๊ก หรือนกแกง เป็นนกในวงศ์นกเงือก เป็นนกเงือกที่เล็กที่สุดในประเทศไทย บางแห่งชาวบ้านจะเรียกว่า นกเงือกเล็ก ตัวที่พบเป็นนกตัวผู้โตเต็มวัย มีความยาวจากปลายปากถึงปลายหางประมาณ 50 เซนติเมตร โดยตัวที่พบร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงดี ไม่มีอาการอ่อนเพลีย หรือเหนื่อยล้า คาดว่านกตัวดังกล่าวน่าจะมีคนแอบนำมาเลี้ยงแล้วหลุดออกมา เพราะลักษณะนิสัยค่อนข้างเชื่องไม่กลัวคน
ทางด้านของนายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 ได้บอกว่า วันนี้ได้ทำการตรวจคัดกรองสารคัดหลั่งเพื่อเฝ้าระวังโรคไข้หวัดในนก โดยรอผลตรวจจากแล็บประมาณ 2 สัปดาห์ ในช่วงระหว่างรอก็จะทำการอนุบาลนกตัวนี้ก่อน แต่โชคดีที่นกตัวนี้ไม่ได้รับบาดเจ็บ หรือเหนื่อยล้าแต่อย่างใด จึงดูแลได้ไม่ยาก ซึ่งจากนี้ก็จะเตรียมนำตัวส่งสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ให้ดูแลต่อไป
นายณรงค์ บ่วงรักษ์ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 ได้เปิดเผยว่า ได้ทราบเรื่องจากเจ้าหน้าที่แล้วเรื่องที่พบนกแก๊กหรือนกแกง ซึ่งเป็นนกตระกูลนกเงือก ไม่ใช่สัตว์เลี้ยง และเป็นครอบครัวเดียวกับนกเงือก (Hornbill) ทุกชนิด หรือ 13 ชนิดที่พบในไทย เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ห้ามมีไว้ในครอบครองโดยเด็ดขาด ผู้ใดฝ่าฝืน ทั้งเลี้ยง ทั้งขาย อาจโดนติดคุก 4 ปี หรือปรับ 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายณรงค์กล่าวอีกว่า นกเงือกเป็นดัชนีแทนป่าดิบที่สมบูรณ์ เพราะนกเงือกทำรังวางไข่ในโพรงไม้ขนาดใหญ่ ป่าไหนที่ยังมีนกเงือกแสดงว่ายังมีต้นไม้ใหญ่หลงเหลืออยู่มาก และนกเงือกเป็นนักปลูกป่า (Seed disperser) ปกตินกเงือกจะอาศัยอยู่เป็นคู่ ตัวผู้กับตัวเมีย อาศัยตามป่าที่สมบูรณ์ ส่วนใหญ่นกเงือกก็จะอยู่ในพื้นที่ป่าภาคใต้ของประเทศไทย แต่สำหรับนกแก๊ก หรือนกแกง ที่พบนี้อาจพบอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งขาติทุ่งแสลงหลวง และป่าในพื้นที่ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งคาดว่ามีผู้ลักลอบนำมาเลี้ยงและหลุดมาดังกล่าว
อยากจะรณรงค์ให้ทุกคนร่วมกันปกป้องสัตว์ป่าของแผ่นดินไม่ให้สูญพันธุ์ เลิกเลี้ยง เลิกล่า เลิกค้า และช่วยกันเป็นสายตรวจโซเชียล ช่วยกันรายงานการล่า การค้าสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือการตัดไม้ทำลายป่า ที่สายด่วนพิทักษ์ป่า 1362 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
