นายสง่า ฉัตรชัยรุ่งเรือง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทรานส์ฟอร์เมชั่น ฟิล์ม จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ทรานส์ฟอร์มรูปแบบการลงทุนสร้างภาพยนตร์จากการลงทุนรายเดียวเป็นการจับมือพันธมิตรธุรกิจที่มีความชำนาญเฉพาะด้านร่วมทุนสร้างภาพยนตร์ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งธุรกิจ และทำให้การผลิตภาพยนตร์ มีคุณภาพและประสบความสำเร็จในการสร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น
นายสง่า กล่าวว่า ภาพยนตร์เรื่อง “โปรเม อัจฉริยะ/ต้อง/สร้าง” ที่กำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 15 สิงหาคมนี้ เป็นภาพยนตร์ที่บริษัทฯได้ร่วมทุนกับบริษัทพันธมิตร ได้แก่ บริษัท บีฮีมอธ แคปปิตอล จำกัด ซึ่งเป็น บริษัท มีเดีย เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ บริหารงานโดย คุณวิบูลย์ ลีรัตนขจร ซึ่งจะมาช่วยในเรื่องการวางกลยุทธ์การตลาดและสื่อประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์ และร่วมกับบริษัท นอร์ธสตาร์ สตูดิโอ จำกัด บริษัทสร้าง CGI, ANIMATION และสร้างภาพยนตร์ ซึ่งเข้ามาช่วยในเรื่องคอมพิวเตอร์ กราฟฟิค หรือ CG ซึ่งเคยมีผลงานการร่วมทุนสร้างภาพยนตร์มาก่อน คือเรื่อง “แสงกระสือ” และมีแผนจะร่วมทุนสร้างภาพยนตร์ร่วมกันอีก 5-6 เรื่อง รวมถึงได้ร่วมกับ บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทฯ ที่เชี่ยวชาญเรื่องการจัดจำหน่ายภาพยนตร์ทั้งในและต่างประเทศ
“การลงทุนกับทั้ง 3 บริษัทพันธมิตร มีแผนการลงทุนแบบระยะยาวเป็นการใช้เงินลงทุนและกำไรหมุนเวียนในการสร้างภาพยนตร์เรื่องต่อ ๆ ไป และในอนาคตบริษัทฯ มีแผนจะร่วมทุนกับพันธมิตรจากทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น การสร้างภาพยนตร์โดยไม่มีพันธมิตรจะทำให้สร้างได้ไม่กี่เรื่อง แต่การร่วมทุนจะทำให้สามารถสร้างภาพยนตร์ได้จำนวนเรื่องมากขึ้น คนดูเกิดความต่อเนื่องที่จะได้ดูผลงานของค่ายหนังนั้น ๆ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการสร้างภาพลักษณ์ให้กับค่ายหนัง”
สำหรับภาพยนตร์เรื่อง “โปรเม อัจฉริยะ/ต้อง/สร้าง” นายสง่า กล่าวว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องของการสร้างแรงบันดาลใจ หากภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถทำให้คนดูหนังแล้วมีแรงบันดาลใจไปทำอะไรสักอย่างที่ทำให้ชีวิตดีขึ้นก็ถือว่าหนังประสบความสำเร็จ และจะดีมากยิ่งขึ้นหากภาพยนตร์เรื่องนี้จะประสบความสำเร็จด้านรายได้ จะยิ่งสร้างความมั่นใจในการลงทุนกับโปรเจคแบบนี้
นายวิบูลย์ ลีรัตนขจร กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีฮีมอธ แคปปิตอล จำกัด กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้มีข้อดีที่แต่ละบริษัทพันธมิตรมีจุดแข็งมาทำงานร่วมกันจะทำให้ได้ชิ้นงานใหญ่ขึ้นและคาดว่าจะออกมาประสบความสำเร็จ ถือเป็นมิติใหม่ที่จะเป็นการรักษาภาพยนตร์ไทยให้สามารถประสบความสำเร็จได้มากขึ้น และเป็นการรักษาไว้ซึ่งศิลปวัฒนธรรมของความเป็นภาพยนตร์ไทยที่สามารถเติบโตได้ในระดับโลก
นายวิบูลย์ กล่าวว่า ในปลายปีนี้ บีฮีมอธจะร่วมกับเอ็ม พิคเจอร์ส ทำภาพยนตร์ร่วมกันเรื่อง “ขุนแผน ฟ้าฟื้น” กำหนดฉายในเดือนตุลาคมนี้ “ความร่วมมือครั้งนี้น่าจะเป็นตัวอย่างให้หลายๆบริษัทได้เห็นว่าสามารถนำจุดแข็งของแต่ละบริษัทมาร่วมมือกันเพื่อสร้างชิ้นงานดีๆให้ผู้ชมมีความสุขได้
ดร.วิสุทธิ วิทยฐานกรณ์ ประธานกรรมการ บริษัท นอร์ธ สตาร์ สตูดิโอ จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ มีความตั้งใจที่จะสร้างสรรค์งานภาพยนตร์ไทยให้เป็นไปในระดับมาตรฐาน เรื่อง “โปรเม อัจฉริยะ/ต้อง/สร้าง” เป็นโปรเจคที่จะสร้างแรงบันดาลใจที่ดี น่าจะสร้างสรรค์งานภาพยนตร์ที่เป็นมาตรฐานที่ดีให้กับประเทศไทยได้ และคาดหวังอยากให้มีคนมาชมภาพยนตร์เรื่องนี้ หรืออย่างน้อยจะเป็นภาพยนตร์ที่มีคนพูดถึงในวงกว้าง และอยากให้ภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถส่งออกไปขายนอกประเทศไทยได้ โดยอยากให้ไปไกลถึงประเทศจีนและสหรัฐอเมริกา “ได้มีการเจรจากันแล้วจะร่วมกันสร้างภาพยนตร์ไทยให้ได้ระดับมาตรฐานต่อไปเรื่อยๆ โดยปีนี้พวกเรามองไว้ 6 เรื่องที่จะทำงานร่วมกัน”
นายพรชัย ว่องศรีอุดมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายภาพยนตร์ไทยและต่างประเทศ บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า เอ็ม พิคเจอร์ส เป็นบริษัทที่ทำการตลาดและจัดจำหน่ายภาพยนตร์ เรามีเป้าหมายจะทำให้ภาพยนตร์ไทยมีความหลากหลาย และพยายามขับเคลื่อนวงการภาพยนตร์ไทยให้ก้าวไปข้างหน้า จึงได้ชวนพันธมิตรทางธุรกิจมาลงทุนร่วมกัน โดยภาพยนตร์เรื่อง โปรเม อัจฉริยะ/ต้อง/สร้าง เป็นเรื่องระดับสากลจึงคิดว่าจะสามารถส่งออกได้ เพราะหนังแนวนี้ในต่างประเทศสนใจมาก เป็นเรื่องของคนไทยที่อยู่ในระดับโลก เป็นเรื่องที่จะสามารถทำให้ทุกคนหันกลับมามองหนังไทย “คาดว่าความร่วมมือครั้งนี้จะทำให้ตลาดภาพยนตร์ไทยคึกคัก สร้างรายได้ให้กับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย เป็นสินค้าส่งออกที่ดี ที่ขณะนี้กำลังขยายตลาดนอกจากในไทย โดยส่งไปที่ลาว และกัมพูชาแล้ว ในตลาดจีนเริ่มมีการพูดคุยแล้ว รวมถึงจะไปเปิดตลาดที่อเมริกาและยุโรปด้วย
