‘ดับบลิวเอชเอ’แนะดึงแอปเปิล-อเมซอนลงทุนไทย วอนตั้งวันสต็อปเซอร์วิสอีอีซี

น.ส.จรีพร จารุกรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น(ดับเบิลยูเอชเอ) ผู้ดำเนิน ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม และคลังสินค้าขนาดใหญ่ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) เปิดเผยถึงแนวโน้มการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี)ช่วงครึ่งหลังปี 2562 ว่า ขณะนี้มีความกังวลต่อกรณีการย้ายฐานการผลิตจากจีนที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ โดยผู้ที่ย้ายฐานมีทั้งนักลงทุนจีน และนักลงทุนต่างชาติ โดยไทยเป็นประเทศเป้าหมายเช่นเดียวกับเวียดนาม และประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน แต่คำถามคือไทยจะดึงการลงทุนส่วนนี้ได้มากน้อยเพียงใด โดยเฉพาะบริษัทใหญ่ คือ แอปเปิ้ล อเมซอน ที่กำลังจะย้ายฐานจากจีน ดังนั้นภาครัฐของไทยควรรีบดึงบริษัทเหล่านี้เข้ามา เพราะปัจจุบันมีลูกค้าโดยเฉพาะนักลงทุนจากจีนสนใจเข้าดูพื้นที่ของดับบลิวเอชเอสัปดาห์ละกว่า 10 ราย สำหรับยอดขายของดับบลิวเอชเอ ตั้งเป้าหมายในประเทศ 1,400 ไร่ แม้ช่วงครึ่งแรกจะปิดยอดขายไม่กี่ร้อยไร่ แต่ตามปกติยอดขายจะเติบโตช่วงครึ่งปีหลัง หากรัฐบาลเร่งดึงการลงทุนจะทำให้ยอดขายบริษัทเติบโตตามเป้าหมายยิ่งขึ้น

“ก่อนที่บริษัทเหล่านี้จะตัดสินใจไปประเทศเพื่อน ล่าสุดมีข่าวว่าสนใจเวียดนาม อินเดีย แล้วไทยหายไปไหน ดังนั้นไทยควรใช้โอกาสที่มี รัฐบาลใหม่ ทีมเศรษฐกิจควรออกไปดึงการลงทุนส่วนนี้เข้ามา รัฐบาลต้องนำ เพื่อให้เอกชนตามเพราะหากรัฐไม่นำ ภาคเอกชนก็ไม่สามารถดำเนินการเองได้”น.ส.จรีพรกล่าว

น.ส.จรีพรกล่าวว่า สำหรับการทำงานของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(สกพอ.) หรือสำนักงานอีอีซี พบว่ามีข้อขัดข้องในกระบวนการทำงานบ้างแต่ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะสำนักงานอีอีซีตั้งขึ้นเมื่อปี 2561 และมีภารกิจเยอะมาก ช่วงแรกภาคเอกชนเข้ามาช่วยทำงานหลายราย แต่เมื่อสำนักงานตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการมีทีมทำงานภาคเอกชนก็เริ่มถอนตัวออกแล้ว แต่สิ่งที่อยากให้สำนักงานอีอีซีเร่งดำเนินการคือ การจัดตั้งศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ หรือ วันสต็อปเซอร์วิส เพื่อให้การขออนุญาตทุกขั้นตอนจบในที่เดียวคือ สำนักงานอีอีซี

น.ส.จรีพรกล่าวว่า ด้านการจัดทำผังเมืองของอีอีซี ที่กำหนดประกาศช่วงต้นเดือนสิงหาคมนี้ก็น่าจะเป็นไปตามแผนซึ่งที่ผ่านมามีนักลงทุนสอบถามเข้ามาที่ดับบลิวเอชเอถึงการใช้พื้นที่หลายราย เพราะกังวลว่าจะติดผังเมือง ทางดับบลิวเอชเอก็พาไปพบกับรัฐบาล จนขณะนี้เกิดความมั่นใจ มีการลงนามสัญญาและพร้อมจะเข้าลงทุนไทย

Advertisement

เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว

เพิ่มเพื่อน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image