วันที่ 30 กรกฎาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะหุ้นวันนี้ว่า หุ้นเคลื่อนไหวในแดนลบ โดยเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 1,717.97 จุด ปิดตลาดภาคเช้าที่ระดับ 1,708.46 จุด ก่อนปิดตลาดภาคบ่ายที่ระดับ 1,706.49 จุด ปรับลดลง 11.48 จุด หรือ 0.67% โดยดัชนีทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,722.20 จุด และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,704.03 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 55,570.64 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น นักลงทุนสถาบันในประเทศ ขายสุทธิ 2,858.03 ล้านบาท นักลงทุนบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 487.27 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิ 509.07 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปในประเทศ ซื้อสุทธิ 2,836.22 ล้านบาท
โดยนายกวี ชูกิจเกษม รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในวันนี้ นักลงทุนมีการขายทำกำไรออกมา เนื่องจากปัจจัยที่คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะมีการประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงออกมานั้น ตลาดรับรู้ไปแล้ว ทำให้ไม่ใช่ปัจจัยบวกใหม่ที่จะช่วยหนุนตลาดให้ปรับขึ้นเพิ่ม แต่เชื่อว่าเฟดน่าจะไม่ได้แถลงออกมาในเชิงรุกเกินไปว่า จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในระยะสั้น เพราะเศรษฐกิจในสหรัฐฯก็้ดูไม่ได้แย่มากนัก จึงทำให้ตลาดย่อตัวลง
นายกวี กล่าวว่า รวมถึงการที่ตลาดให้ความสำคัญกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไทย ซึ่งคาดว่าผลประกอบการในไตรมาส 2 จะออกมาไม่ดีเท่าที่ควร เนื่องจากเศรษฐกิจในไตรมาส 2 ไม่ดีนัก โดยตัวเลขผลประกอบการของหุ้นกลุ่มธนาคารที่รายงานออกมา ก็ดูจะไม่ดีเท่าที่ควร ซึ่งตัวเลขผลประกอบการของธนาคาร ที่มีภาวะหนี้เสียเพิ่มขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงทิศทางเศรษฐกิจในขณะนั้นว่าเป็นอย่างไร โดยขณะนี้มีเพียงหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าและไอซีทีเท่านั้น ที่พอจะคาดหวังผลประกอบการได้
“กลยุทธ์ที่แนะนำในการลงทุนวันพรุ่งนี้ (31 กรกฎาคม) ยังมองแนวรับอยู่ที่ 1,700 จุด ถึงแม้วันนี้จุดต่ำสุดจะหลุด 1,714 จุดลงมา เพราะมองว่าการจะหลุด 1,700 จุดได้น่าจะยากพอสมควร โดยหากดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้นไปจนถึงแนวต้านที่ระดับ 1,750 จุด แนะนำให้ลดพอร์ตสะสม แต่หากปรับลดลงมาต่ำกว่าระดับ 1,700 จุด หรือลงถึง 1,680 จุด แนะนำให้เข้าซื้อสะสมไปเรื่อยๆ โดยหุ้นเด่นที่น่าสนใจแนะนำเป็น PTTEP, KTB, TRUE, ADVANC, BJC รวมถึงหากหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้าปรับฐานลดลง ก็มีความน่าสนใจที่จะเข้าไปลงทุนด้วยได้”นายกวีกล่าว
เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว
