ที่กรุงปักกิ่ง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่าใน วันที่ 14 สิงหาคมนี้ได้นัดประชุมคณะกรรมการร่วมรัฐ-เอกชนในส่วนของก.พาณิชย์(กรอ.) เป็นครั้งแรก โดยจะมีการประชุมกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์ ส่วนราชการต่างๆที่เกี่ยวข้องระดับปลัดกระทรวงและอธิบดีกรม กับภาคเอกชน สมาคมที่เกี่ยวข้อง เช่น สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หอการค้าไทย ผู้ส่งออกสินค้าทางเรือ สมาคมธนาคารไทย เป็นต้น
นายจุรินทร์ กล่าวว่า เพื่อจะได้หารือร่วมกันและกำหนดแนวทางระหว่างประเทศไทยกับคู่ค้าทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเพิ่มตัวเลขการส่งออกซึ่งทุกประเทศในโลกกำลังประสบอุปสรรค โดยเฉพาะอุปสรรคที่เกิดจากสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา(เทรดวอร์)
“ในที่ประชุมกรอ.นัดแรก จะพูดคุยเรื่องหาทางออกกรณีอุปสรรคที่เกิดขึ้น ที่จะทำให้ประเทศไทย สามารถเดินหน้าเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศต่อไปได้อย่างไร เรื่องนี้คงจะหารือร่วมกันระหว่างทั้งภาครัฐและเอกชน และร่วมมือกันทำงานเพื่อขับเคลื่อน ” นายจุรินทร์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงาน ในการประชุมกรอ.คาดว่าจะมีตัวแทนจากหน่วยงานรัฐ และเอกชน มาประชุมหารือกว่า 50 ราย โดยขณะนี้สมาคมภาคเอกชน อยู่ระหว่างการหารือ เพื่อจัดทำสถานการณ์ความคืบหน้าต่อปัจจัยลบต่างๆที่กำลังเกิดขึ้น และข้อเสนอแนะในการผลักดันการส่งออก โดยอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ได้มีการปรับลดตัวเลขเป้าหมายการส่งออกจากเดิมคาดว่าจะโต 3-5% เหลือติดลบ 2% ถึงบวก 0-1% แทน ส่วนข้อเสนอเน้นในเรื่องการดูแลค่าบาทที่แข็งค่าต่อเนื่อง ขอให้รัฐบาลออกมาตรการด้านภาษีช่วยเหลือผู้ส่งออก จัดหาตลาดใหม่และฟื้นตลาดเก่าที่มีศักยภาพโดยรัฐบาลเร่งโรดโชว์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจุรินทร์ ได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์ไทยประจำอยู่ในสหรัฐฯและจีน ติดตามดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หลังจากที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีสินค้าจีนรอบใหม่ โดยให้ดูว่ามีเสียงตอบรับหรือคัดค้าน หรือมีความเคลื่อนไหวทางการค้าอะไรบ้าง และให้ดูว่าไทยจะมีโอกาสในการเจาะเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ ได้เพิ่มขึ้นหรือไม่ ใช้วิธีการใด โดยเฉพาะการทดแทนสินค้าจีนที่ถูกขึ้นภาษี ส่วนในจีน ให้จับตาดูท่าทีของจีน ว่ามีความเห็นอย่างไร จะมีการตอบโต้คืนหรือไม่ และหากจะตอบโต้ จะตอบโต้สินค้าใด เพื่อที่จะดูว่าสินค้าไทยจะมีโอกาสหรือไม่ อย่างไร
