เวลา 11.30 น. วันที่ 6 สิงหาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หุ้นไทยเปิดตลาดภาคเช้ามาที่ระดับ 1,665.99 จุด เคลื่อนไหวในแดนลบที่ระดับ 1,664.45 จุด ปรับลดลง 1.54 จุด หรือ 0.09% โดยดัชนีทำจุดสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 1,668.78 จุด ทำจุดต่ำสุดระหว่างวันที่ระดับ 1,647.49 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 31,875.08 ล้านบาท
โดยนายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยในวันนี้จะปรับลดลงต่อ เนื่องจากทิศทางตลาดหุ้นโลกเมื่อวาน (5 สิงหาคม) ดิ่งลงเหว โดยดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ของสหรัฐฯ ร่วงกว่า 760 จุด หรือ -2.9% ซึ่งถือเป็นวันที่แย่ที่สุดของปีนี้ หลังจีนตอบโต้สงครามการค้ากับสหรัฐฯ โดยปล่อยให้เงินหยวนอ่อนค่าสุดในรอบ 11 ปี ทะลุระดับ 7 หยวนต่อเหรียญสหรัฐฯ รวมทั้งสั่งระงับการซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯด้วย ด้านราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ร่วงมากกว่า 3% ซึ่งเป็นผลจากความวิตกกรณีสงครามการค้าจะกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและอุปสงค์น้ำมัน จึงมองว่าดัชนีหุ้นไทยมีแนวโน้มปรับลดลงต่อ ตามทิศทางหุ้นทั่วโลกที่ดิ่งลงหนัก เนื่องจากนักลงทุนยังอยู่ในโหมดกลัวความเสี่ยง
นายอภิชาติ กล่าวว่า ขณะที่ทองคำมีการปรับราคาขึ้นสูงสุดใหม่ในรอบ 6 ปี ด้านแนวโน้มเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) เป็นลบมากขึ้น โดยต่างชาติและกองทุนในประเทศขายสุทธิหนักอย่างต่อเนื่องตั้งแต่กลางสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดีหากรัฐบาลเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อผลักดันผลิตภัณฑ์มวลรวม (จีดีพี) ของปีนี้ให้เติบโตได้เกิน 3% ซึ่งจะช่วยให้ตลาดหุ้นไทยปรับลงไม่มาก
“กลยุทธ์ที่แนะนำในการลงทุนคือ ให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูความชัดเจนมากกว่านี้ก่อน ซึ่งแนะนำให้ใช้เล่นเป็นกลยุทธ์หลัก หากตลาดดีดตัวขึ้นมาได้ ก็จะเป็นจังหวะในการขายเพื่อกระชับพอร์ตและถือครองเงินสดเพิ่ม อย่างไรก็ดีมองว่าหากดัชนีเคลื่อนไหวลงมาในบริเวณระดับ 1,650-1,660 จุด จะเป็นจังหวะเหมาะสมในการเริ่มต้นทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานอีกครั้ง”นายอภิชาติกล่าว
เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว
