‘หมอสงค์’ คัมแบ๊ก ยันไม่ยุ่งศึก อบจ. เดินหน้าตรวจสอบรัฐบาล ท้าขอให้อยู่ครบวาระ 

เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม บรรยากาศความเคลื่อนไหวทางการเมือง หลังมีการจัดตั้งรัฐบาล และใกล้ประกาศการเลือกตั้ง อบจ.นครพนม ตามกฎหมาย คาดว่าจะต้องมีการประกาศการเลือกตั้งในช่วงปลายปี 2562 ซึ่งมีหลายกลุ่มการเมืองเริ่มมีการเคลื่อนไหว ทั้งพรรคการเมืองระดับชาติ รวมถึงกลุ่มการเมืองท้องถิ่น โดยเฉพาะนายแพทย์ประสงค์ บูรณ์พงศ์ อายุ 83 ปี อดีต ส.ส.แชมป์ 10 สมัย เริ่มเส้นทางการเมือง หลังลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนม จนได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ครั้งแรก ตั้งแต่ปี 2526 จนเติบโตทางการเมือง กลายเป็น ส.ส.ขวัญใจประชาชน ตั้งแต่พรรคชาติไทย พรรคความหวังใหม่ พรรคไทยรักไทย และพลังประชาชน ที่สำคัญยังเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม จนถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม รวมดำรงตำแหน่ง ส.ส.ถึง 10 สมัย สุดท้ายต้องห่างจากสนามการเมือง เนื่องจากมีตำแหน่งเป็นกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน หลังถูกยุบพรรคถูกตัดสิทธิ 5 ปี มีชื่อ 1 ในบ้านเลขที่ 111 เมื่อปี 2550

ล่าสุด หมอสงค์คัมแบ๊ก ม้ามืด หลังร่วมทำงานขับเคลื่อนกับพรรคเสรีรวมไทย นั่งรองหัวหน้าพรรค และได้มีชื่อเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ ของพรรคเสรีรวมไทย แบบเกินคาด เป็น ส.ส.คนที่ 5 ของ จ.นครพนม หลังผลการเลือกตั้ง ส.ส.เขต รวม 4 เขต มีนายศุภชัย โพธิ์สุ (ครูแก้ว) พรรคภูมิใจไทย ชนะเขตเลือกตั้งที่ 1 ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 2 คือ นางสาวมนพร เจริญศรี ส.ส.พรรคเพื่อไทย แชมป์เก่า เขต 3 ดร.ไพจิต ศรีวรขาน พรรคเพื่อไทย อดีต ส.ส.แชมป์ตลอดกาล 10 สมัย และเขตเลือกตั้งที่ 4 นายชวลิต วิชยสุทธ์ ผันตัวจากบัญชีรายชื่อ ไปลงสมัคร ส.ส.เขต 4 พรรคเพื่อไทย แทนนายชูกัน กุลวงษา อดีต ส.ส.แชมป์ เพื่อไทย หลังหันไปซบพลังประชารัฐ แต่สอบตก ทำให้สนามการเมืองนครพนม มี ส.ส.รัฐบาลปัจจุบันถึง 3 ขั้ว

ทั้งนี้ นายแพทย์ประสงค์ บูรณ์พงศ์ อายุ 83 ปี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันได้ทำงานการเมืองเชิงรุก ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย หลังพักงานการเมืองมานานกว่า 8 ปี จนกระทั่งได้มีโอกาสมาทำงานร่วมกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เพราะมีอุดมการณ์เดียวกัน บวกกับเป็นวิถีเส้นทางการเมืองที่ลงตัว แต่ไม่ได้ขัดแย้งกับพรรคเดิม คือเพื่อไทย แต่ด้วยวิถีการเมือง จึงหาจุดลงตัว เพื่อให้มีโอกาสเข้าไปทำงานในรัฐบาลต่อไป จนได้รับตำแหน่ง และทางพรรคได้มอบหมายให้ดูแลพื้นที่ภาคอีสาน หลังรับตำแหน่งได้ลงพื้นที่ ตรวจสอบ รับทราบปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน ทั้งนครพนม สกลนคร มุกดาหาร รวมถึงหลายจังหวัดภาคอีสานตอนบน ซึ่งใช้เวลาว่างลงพื้นที่พบปะแกนนำ สมาชิกพรรค สิ่งสำคัญที่ยังห่วงคือ ปัญหาเศรษฐกิจ ความเดือดร้อนของชาวบ้าน เพราะบ้านเมืองเกิดวิกฤตทางการเมือง ถึงจะตั้งรัฐบาลเสร็จ แต่ยังใช้เวลาในการพัฒนา ทำให้ชาวบ้านต้องดิ้นรนต่อสู้ ยิ่งช่วงนี้ปัญหาภัยแล้งถือว่าวิกฤตกว่าทุกปี ตนในฐานะทำงานการเมืองมานาน จะขอฟื้นฟูโครงการโขงชีมูล ให้ประสบความสำเร็จ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวอีสาน จะนำเสนอรัฐบาลมาสานต่อ ให้เกษตรกรอีสานได้ประโยชน์มากที่สุด

นายแพทย์ประสงค์กล่าวอีกว่า พูดถึงการบริหารงานรัฐบาลปัจจุบัน ต้องยอมรับว่าได้มาจากการปฏิวัติ แบบปฏิเสธไม่ได้ และเป็นรัฐบาลที่ใช้กฎหมายปฏิวัติ โดยไม่ได้ใช้อาวุธ เหมือนหลายครั้งที่ผ่านมา โดยใช้อำนาจรัฐธรรมนูญเป็นเครื่องมือในการออกกฎหมาย ตั้ง ส.ว.จำนวน 250 ที่นั่ง เป็นฐานสำคัญในการใช้อำนาจของรัฐบาล ให้เหนือกว่าพรรคการเมืองอื่น จึงยากที่จะทำการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ไม่หนักใจที่จะทำงานเป็นฝ่ายค้านตรวจสอบ ติดตามการทำงานของรัฐบาล เพื่อให้โครงการต่างๆ ถึงประชาชน ประชาชนได้ประโยชน์ มาถึงวันนี้ขอให้กำลังใจรัฐบาลอยู่ครบวาระ 4 ปี และเชื่อมั่นว่าจะอยู่ครบ ถ้าประชาชนรับได้ แต่หากประชาชนเดือดร้อน ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องไม่ได้รับการแก้ไข ตนเชื่อว่าประชาชน จะเป็นตัวชี้วัดอายุรัฐบาล ว่าจะครบหรือไม่ครบวาระ หากประชาชนเดือดร้อนขั้นวิกฤตเชื่อว่ารัฐบาลปัจจุบัน ถึงจะมีรัฐธรรมนูญเอื้อการใช้อำนาจ แต่คงไม่สามารถยื้อได้

Advertisement

นายแพทย์ประสงค์กล่าวต่อว่า หากพูดถึงการเมืองท้องถิ่น หลายพรรคกำลังเคลื่อนไหวที่จะสนับสนุน เลือกตั้ง อบจ. เลือกตั้งท้องถิ่น เพื่อสร้างฐานการเมือง สำหรับตนขอให้เป็นไปตามทิศทางการเมืองท้องถิ่น พรรคเสรีรวมไทยไม่มีแนวทางจะสนับสนุนหรือขับเคลื่อนการเมืองท้องถิ่น ขอให้เป็นไปด้วยความอิสระทางการเมือง เพราะหัวใจสำคัญคือการเดินหน้า ตรวจสอบ ติดตามการทำงานรัฐบาล และขับเคลื่อนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้ประชาชนได้มีประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ถึงแม้จะมีข่าวว่าบุตรชาย คือ นายศักดา บูรณ์พงศ์ จะลงสมัครแข่งขัน ชิงตำแหน่งในการเลือกตั้ง อบจ.นครพนม แต่ตนขอให้เป็นอิสระ ไม่ได้เอาพรรคมาสนับสนุน ส่วนการทำงานในหน้าที่ ส.ส.ยืนยันว่าถึงนครพนมจะมี ส.ส. 3 ขั้ว 3 พรรคการเมือง แต่มั่นใจสามารถทำงานด้วยกันได้ เพราะเป้าหมายทำเพื่อประชาชน หากเป็นการพัฒนาและแนวทางที่ดี สำหรับชาวนครพนม ตนพร้อมจะสนับสนุนทุกพรรค ไม่ขัดแย้ง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image