จากกรณีคนร้าย ชื่อนายจอนนี่ นำรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ของตนเองไปแต่งที่ร้านจำหน่ายและรับแต่งรถจักรยานยนต์แห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ ต.นครสวรรค์ตก อ.เมือง จ.นครสวรรค์ แล้วทำทีขอเลือกลองรถบิ๊กไบค์ ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู สีฟ้า-ขาว ทะเบียน6กช-789 กรุงเทพมหานคร มูลค่ากว่า 8 แสนบาท ที่ทางร้านนำรถมาจากลูกค้าอีกรายหนึ่ง ในการฝากขาย โดยคนร้ายอาศัยความสนิทสนมกับเจ้าของร้าน ซึ่งเคยเที่ยวด้วยกันบ่อย จึงทำให้เจ้าของร้านเชื่อใจ ยอมให้กุญแจรถบิ๊กไบค์หรูไปให้นายจอนนี่ทดลองขับขี่ แต่เมื่อออกจากร้านไปแล้ว ก็เชิดรถหนีหายไปไม่กลับมาอีกเลย จนต้องรีบแจ้งความตำรวจให้ช่วยตามล่าคนร้ายรายนี้ เพื่อติดตามรถกลับคืน ตามที่ได้มีการเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ ใช้เวลาเพียงไม่ถึงวัน สามารถติดตามไล่จับกุมนายจอนนี่ที่เชิดรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์หรูหนีไปได้แล้ว โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.สิงห์บุรี พร้อมกับเงินสดในกระเป๋าสะพาย จำนวน 80,000 บาท และยึดคืนรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู สีฟ้า-ขาว ที่ขโมย กลับมาให้เจ้าของในสภาพเดิม โดยมีนายฐิติพัฒน์ กองอนุวัชวงศ์ เจ้าของ เดินทางมาพร้อมกับกลุ่มเพื่อน เพื่อขอรับรถคืนด้วยสีหน้าดีใจ
จากการสอบถามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กล่าวว่า คนร้ายรายนี้ ชื่อจริงคือ นายวงศกร กิ่งแก้ว อายุ 22 ปี เป็นชาว อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ แต่เปลี่ยนที่อยู่ไปเรื่อย เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยถูกจับติดคุกเยาวชนในคดีลักทรัพย์เมื่อตอนอายุ 17 ปี ก่อนจะได้รับการพ้นโทษออกมาแล้วมาก่อเหตุในลักษณะเดียวกันอีก โดยมีหมายจับในคดีลักทรัพย์ และชิงทรัพย์อยู่ถึง 3 หมาย ทั้งในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ จ.ลพบุรี และ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จนกระทั่ง หลบหนีมาอยู่ในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ ได้เมื่อช่วงปลายปีก่อน ซึ่งในช่วงที่นายวงศกรหลบหนีมาอยู่ในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ ก็ได้มีการไปตีสนิทกับหญิงสาว และบุคคลอื่นหลายราย อวดอ้างตนเป็นนายทหารยศใหญ่ และมักจะออกเที่ยวยามราตรีใช้เงินจำนวนมากเกือบทุกคืน จนทำให้คนที่ถูกตีสนิทเกิดความน่าเชื่อถือ ซึ่งในจำนวนนี้ ก็มีนายศรัณย์ภัทร พิทักษ์อังกูร เจ้าของร้านจำหน่ายรถจักรยานยนต์ และนายฐิติพัฒน์ กองอนุวัชวงศ์ เจ้าของรถบิ๊กไบค์ตกเป็นเหยื่อจากการถูกตีสนิท ขณะไปท่องเที่ยวยามราตรีเรื่อยมา และนายวงศกร มักจะเอารถบิ๊กไบค์ไปแต่งที่ร้านของนายศรัณย์ภัทรเป็นประจำ จนทำให้เกิดความเชื่อใจ ยอมให้นายวงศกรนำบิ๊กไบค์ ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยูของายฐิติพัฒน์ ไปขี่ทดลองก่อนถูกเชิดหนีหายไป เคราะห์ดีที่ติดตามจับกุมแล้วเอารถกลับคืนมาได้
ด้าน นายวงศกร ให้การรับสารภาพว่า หลังจากเจ้าของร้ายหลงกลให้เอารถบิ๊กไบค์ของผู้เสียหายออกมาทดลองขี่ได้แล้ว ก็รีบขับขี่มุ่งหน้าเข้าพื้นที่ จ.อยุธยาทันที ก่อนจะวกกลับมาเปิดรีสอร์ทนอนอยู่ในพื้นที่ จ.สิงห์บุรี จนกระทั่ง เช้าตื่นมาเปิดเครื่องโทรศัพท์เพื่อเช็คความเคลื่อนไหว แต่สุดท้ายไม่รอด ถูกเจ้าหน้าที่บุกเข้าจับกุมถึงในรีสอร์ท ส่วนรถที่ขโมยมา ตนไม่ได้หวังเอาไปขาย แค่อยากเปลี่ยนคัน เพราะเบื่อคันเดิม จึงตัดสินใจเอารถของตนเองไปแต่ง แล้ววางแผนเชิดรถบิ๊กไบค์ของผู้เสียหายหลบหนีมา โดยหวังเพียงแค่จะสร้างภาพให้ตนเองดูภูมิฐาน เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้ผู้หญิงและคนอื่นๆ ที่ตนเข้าไปทำความรู้จักดูน่าเชื่อ
เบื้องต้น จากการตรวจสอบ พบว่า รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ของนายวงศกร ที่เอาไปแต่งที่ร้านของผู้เสียหาย เป็นรถที่ถูกขโมยมา โดยเดิมทีรถคันดังกล่าวเป็นสีขาว แต่กลับถูกเปลี่ยนสีถึง 2 ครั้ง คือ สีดำ และสีแดง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะมีการสอบสวนขยายผลกับผู้ต้องหาก่อนจะแจ้งข้อกล่าวหาส่งตัวให้กับพนักงานสอบสวนไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
