นายกาจบัณฑิต รามมาก ประธานศูนย์ประสานงานองค์กรชุมชนอำเภอระโนด จังหวัดสงขลา กล่าวว่า โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งบริเวณตำบลท่าบอน อำเภอระโนด ที่กรมเจ้าท่าเป็นผู้รับผิดชอบนั้น ชาวบ้านในพื้นที่คาดหวังและมีความต้องการเพื่อช่วยป้องกันปัญหาคลื่นซัดถล่มชายฝั่งที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านและชาวประมงที่อาศัยอยู่ริมชายฝั่ง เพราะที่ผ่านมาได้สร้างความเสียหายและบางรายต้องอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย
นายกาจบัณฑิตกล่าวว่า เชื่อว่าหากมีเขื่อนกันคลื่นตลอดแนวชายหาด จะสามารถป้องกันปัญหาได้ โดยในอำเภอระโนดนั้นขณะนี้พื้นที่ชายฝั่งส่วนใหญ่จะมีการก่อสร้างเขื่อนกันคลื่นเกือบหมดแล้ว มีอยู่ในบางจุดที่คาดว่าจะได้รับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อดำเนินการในปีถัดไป
สำหรับโครงการก่อสร้างเขื่อนดังกล่าว กรมเจ้าท่าได้ว่าจ้างบริษัทเอกชน ในวงเงิน 133 ล้านบาทเศษ เพื่อก่อสร้างเขื่อนกันคลื่น ริมชายฝั่งอ่าวไทย ระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร โดยมีลักษณะงาน 3 รูปแบบ ตามความเหมาะสมและความต้องการของชุมชน คือ การก่อสร้างกำแพงหินทิ้งป้องกันตลิ่ง การก่อสร้างกำแพงหินทิ้งป้องกันตลิ่งแบบผสมน้ำยาเคลือบหินและการก่อสร้างกำแพงหินทิ้งป้องกันตลิ่งแบบกำแพงคอนกรีตชนิดตื้นดักทราย ส่วนใหญ่ใช้รูปแบบกำแพงคอนกรีตชนิดตื้นดักทราย ซึ่งใช้วิธีการตอกเสาเข็มลงไปบริเวณชายหาด ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งรัดดำเนินการ เพื่อให้แล้วเสร็จตามกำหนดระยะเวลาที่กำหนดคือ วันที่ 11 กันยายนนี้ ซึ่งหากแล้วเสร็จทันกำหนดก็จะทันกับช่วงฤดูมรสุมของปีนี้
