มอบตัวแล้วจี้ชิงเงินธ.กรุงไทย เชียงราย เป็นหนุ่มรับเหมาอ้างขาดสติ หาเงินรักษาพ่อป่วย

ความคืบหน้ากรณีคนร้ายอายุประมาณ 30 ปี ใช้ผ้าอำพรางใบหน้าบุกเดี่ยวใช้อาวุธมีดเข้าชิงทรัพย์ภายในธนาคารกรุงไทย สาขาห้าแยกพ่อขุน ถนนพหลโยธิน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ได้เงินสดไปจำนวน 280,500 บาท เหตุเกิดช่วงเย็นของวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา ล่าสุดที่ห้องประชุม ภ.จว.เชียงราย พล.ต.ต.ยุทธชัย พัวประเสริฐ ผบก.ภ.จว.เชียงราย มอบหมายให้ พ.ต.อ.ประจัญ ปัญญาแก้ว รอง ผบก.ภ.จว.แพร่ ปฏิบัติหน้าที่ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงราย แถลงความคืบหน้าในการติดตามตัวคนร้าย โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า ทางผู้ก่อเหตุได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วตั้งแต่เวลา 05.00 น.ของวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา

พ.ต.อ.ประจัญกล่าวว่า คดีดังกล่าวทางผู้ต้องหาได้ใช้สิทธิไม่ขอเปิดเผยใบหน้าและชื่อนามสกุลใดๆ ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ไม่อาจนำตัวมาเปิดเผยได้ แต่ยืนยันว่าทางผู้ต้องหาได้เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงราย เรียบร้อยแล้ว โดยเป็นชาย อายุ 33 ปี มีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง และอาศัยอยู่ในเขต อ.เมืองเชียงราย เบื้องต้นได้ให้การว่าได้ก่อเหตุไปเพราะขาดสติและที่ผ่านมาไม่เคยมีการกระทำความผิดอื่นมาก่อน โดยระบุแรงจูงใจในการก่อเหตุว่า ก่อนเกิดเหตุได้นำเงินธนบัตรจำนวน 3,500 บาท ไปแลกเป็นธนบัตรฉบับละ 100 บาท เพื่อจะนำไปจ่ายให้กับคนงานรับเหมาก่อสร้าง และเมื่อเข้าไปถึงธนาคารในช่วงเย็นใกล้เวลาเลิกงานได้พบเห็นพนักงานธนาคารกำลังนับเงินจำนวนมากบนเคาน์เตอร์จึงเกิดความอยากได้มาโดยขาดสติและต้องการจะนำไปใช้รักษาอาการป่วยของบิดา

พ.ต.อ.ประจัญกล่าวอีกว่า ผู้ต้องหาระบุว่าได้เดินเข้าไปในธนาคารช่วงแรกด้วยประตูหน้าตามปกติ และเมื่อเห็นเงินจำนวนมากจึงกลับเข้าไปอีกครั้ง และเข้าไปหยิบฉวยไปจากเคาน์เตอร์โดยไม่ได้ใช้อาวุธหรือบังคับข่มขู่ใดๆ จากการตรวจสอบด้วยกล้องวงจรปิดเจ้าหน้าที่ก็ไม่พบมีพฤติกรรมข่มขู่จริง ซึ่งหลังก่อเหตุตำรวจได้ออกสืบสวนและกดดันรวมทั้งเผยแพร่ภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งทางผู้ต้องหาก็ให้การว่า เมื่อทราบเรื่องก็กลับไปซ่อนตัวที่บ้านแล้วปรึกษากับครอบครัวแล้วสำนึกผิดจึงได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยได้นำเงินสดทั้ง 280,500 บาท มามอบคืนให้ธนาคารทั้งหมดด้วย

พ.ต.อ.ประจัญกล่าวด้วยว่า ปัจจุบันทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงอยู่ระหว่างควบคุมตัวเอาไว้เพื่อสอบสวนตามขั้นตอน รวมทั้งสอบปากคำพยานภายในธนาคารและผู้เกี่ยวข้องไปแล้วประมาณ 7-8 ปาก เพื่อตรวจสอบว่าสอดคล้องกับคำให้การของผู้ต้องหาหรือไม่ นอกจากนี้ยังตรวจหลักฐานที่เกิดเหตุ หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ฯลฯ ว่าตรงกับผู้ต้องหาหรือไม่ โดยขณะนี้ยังคงตั้งข้อหา 1 ข้อหาคือ “วิ่งราวทรัพย์” ไว้ก่อน จากนั้นเมื่อครบกำหนดเวลาควบคุมตัวก็ขึ้นอยู่กับผู้ต้องหาว่าจะขอประกันตัวหรือไม่ ซึ่งโดยรูปการณ์แล้วเห็นว่ามอบตัวด้วยดีและให้การเป็นประโยชน์ กระนั้นก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของพนักงานสอบสวนว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่ ทั้งนี้ การที่สามารถดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้อย่างรวดเร็วดังกล่าวเกิดขึ้นจากการพยายามกดดันจากทุกฝ่าย ทั้งตำรวจและหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งสื่อมวลชนที่ได้เผยแพร่ข้อมูลและภาพจนทำให้มีการเข้ามอบตัวในที่สุด

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อสอบถามว่าจากการสอบปากคำพยานได้ความว่าผู้ก่อเหตุได้ถืออาวุธมีดเข้าไปด้วยหรือไม่นั้น ทาง พ.ต.อ.ประจัญตอบเพียงว่า ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการสืบสวนสอบสวน เช่นเดียวกับเรื่องอื่นๆ ที่จะสรุปผลสำนวนได้ก็ต่อเมื่อทางพนักงานสอบสวนได้ดำเนินการแล้วเสร็จเท่านั้น โดยขั้นตอนนี้ทางตำรวจเพียงแต่แถลงความคืบหน้าในคดีกรณีการมอบตัวและคำให้การเบื้องต้นจากผู้ต้องหาเท่านั้น และมีรายงานข่าวด้วยว่าหลังจากผู้ต้องหารายนี้ได้เข้ามอบตัวทางพนักงานสอบสวนได้นำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ธนาคารกรุงไทย สาขาห้าแยกพ่อขุน และสถานที่ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องไปจนถึงสถานที่หลบซ่อนตัวในเขต ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image