‘ศักดิ์สยาม’ สั่งกรมขนส่งฯ ตรวจเช็ครถโดยสาร-รถบรรทุก ลุยสุ่มตรวจ 2 ก.ย.นี้ก่อน 10%

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังการนโยบายด้านความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนที่ กรมการขนส่งทางบก พร้อมเยี่ยมชมการปฏิบัติงานการตรวจสภาพความพร้อมของรถและผู้ขับรถโดยสารว่า ได้มอบนโยบายในเรื่องของมาตรการในการตรวจสอบความปลอดภัยให้กับกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) โดยจะมีการให้ตรวจ 3 เรื่องหลักคือ คนขับ รถโดยสาร และการมีมาตรการจัดตั้งจุด Checking point หรือจุดตรวจรถโดยสารทุกชนิด เพื่อควบคุมความเร็วและความพร้อมของผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะ และตรวจสอบภายในรถโดยสารว่ามีอุปกรณ์ครบถ้วนตามที่กำหนดไว้หรือไม่ ซึ่งได้มอบหมายให้มีการสำรวจในการหาจุดตรวจที่ต้องไม่ตั้งอยู่ในท้องถนน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหารถติดเกิดขึ้น โดยเบื้องต้นได้ให้ประสานกับสถานีบริการเชื้อเพลิง (ปั๊มน้ำเงิน) ในพื้นที่ว่ามีความเหมาะสมหรือไม่อย่างไร และควรตั้งติดป้ายเพื่อบอกรายละเอียดของจุดตรวจเพื่อบอกรายละเอียดให้ชัดเจนว่าจุดใดจะเป็นจุดตรวจดังกล่าว รวมถึงจะต้องมีการหารือและทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการในมาตรการติดตั้งจุดตรวจรถโดยสารที่จะติดตั้งในทุก 90 กิโลเมตร

“มาตรการทั้งหมดที่ออกมาก็เพื่อสร้างความมั่นใจในด้านความปลอดภัยให้กับผู้ให้บริการและผู้ได้รับการบริการ เพราะทั้งหมดทำเพื่อประชาชนทั้งประเทศ เนื่องจากไม่ต้องการให้เกิดอุบัติเหตุใดขึ้น เพราะจะสร้างความสูญเสียและความเสียใจตามมา โดยยืนยันว่าพนักงานในกรมขนส่งฯมีความยินดีและพร้อมในการปฎิบัติงานตามมาตรการตลอด 24 ชั่วโมงและไม่มีวันหยุด โดยในวันที่ 16 กันยายนนี้จะเริ่มดีเดย์ใช้มาตรการจุดตรวจเช็กรถโดยสารพร้อมกันทั่วประเทศ ซึ่งเชื่อว่าหากมีการร่วมมือกัน จะช่วยคลี่คลายปัญหาการเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งในประเทศได้” นายศักดิ์สยามกล่าว

นายศักดิ์สยามกล่าวว่า รวมถึงยังได้สั่งการให้ประสานงานหาจิตอาสาเข้ามาร่วมกันทำงาน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้มากขึ้นด้วย โดยขณะนี้จะเพิ่มมาตรการให้ผู้โดยสารได้แสดงความคิดเห็นผ่านช่องทางโชเซียลมีเดีย หรือการแสดงความคิดเห็นผ่านเอกสารที่จะมีติดไว้ในรถโดยสารทุกคัน เพื่อสะท้อนความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริการของผู้ขับขี่รถโดยสาร อุปกรณ์อำนวยความสะดวกและความปลอดภัย รวมถึงสภาพรถโดยสารที่นำมาให้บริการด้วย เพื่อนำมาประเมินอีกครั้ง สำหรับเวลาในการตรวจเช็กรถโดยสารเบื้องต้นคาดว่าจะไม่เกิน 10 นาทีต่อรถโดยสาร 1 คัน ซึ่งจะมีการตรวจวัดระดับปริมาณแอลกอฮอลล์ และในระหว่างที่ทำการตรวจเช็ก ก็จะให้ผู้โดยสารลงจากรถเพื่อผ่อนคลายอิริยาบถต่างๆ ได้ ซึ่งเมื่อตรวจเช็กแล้วเสร็จจะให้ขึ้นรถทันที ไม่อนุญาตให้แวะร้านสะดวกซื้อหรือที่อื่น เพื่อปิดโอกาสที่จะทำอะไรที่ผิดกฎหมายได้ โดยจะเริ่มดำเนินการทันทีในวันที่ 2 กันยายนนี้ ซึ่งเบื้องต้นจะสุ่มตรวจ 10% เป็นกลุ่มตัวอย่าง และภายใน 3 เดือนต่อจากนี้จะตรวจให้ได้ทั้ง 100% ทั้งคนขับและรถโดยสาร

นายศักดิ์สยามกล่าวว่า ในขณะนี้เดียวกันยังได้มอบหมายให้กรมขนส่งฯพิจารณาในการจัดระเบียบรถบรรทุกเพิ่มเติม เพราะเป็นองค์ประกอบหนึ่งในด้านการขนส่ง ซึ่งหากสามารถจัดระเบียบทั้งรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุกไปพร้อมกันได้ จะเป็นส่วนช่วยลดอุบัติเหตุให้น้อยลงได้ โดยต้องรอให้สำนักงานขนส่งทั่วประเทศไปประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมกับผู้ปฏิบัติและผู้ประกอบการในพื้นที่ให้เข้าใจตรงกันก่อน ซึ่งหากตรวจพบว่ามีรถที่ฝ่าฝืนการตรวจเช็ก จะมีการประสานให้เจ้าหน้าที่ในจุดตรวจต่อไปไปสกัดเพื่อนำรถเข้าตรวจให้ได้ ส่วนกรณีตรวจรถหรือพนักงานขับรถแล้วพบว่าไม่ผ่านตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ ผู้ประกอบการต้องเตรียมความพร้อมในการที่จะนำรถโดยสาร หรือพนักงานขับรถมาเปลี่ยนทันที ส่วนในกรณีที่กระทำผิดและผู้ประกอบการไม่ยอมแก้ไข จะมีมาตรการลงโทษตามความเหมาะสมในแต่ละกรณี จากขั้นต่ำจนถึงขั้นเด็ดขาด ตั้งแต่ตักเตือน ปรับเงิน พักใช้ใบขับขี่ และเพิกถอนใบอนุญาตประกอบการ แต่เชื่อว่าหากทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการได้ทั้งหมด จะไม่เกิดเรื่องเหตุการณ์ที่ไม่ดีขึ้นแน่นอน

Advertisement

นายศักดิ์สยามกล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (30 สิงหาคม) จะมีการนัดบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) กรมธนารักษ์ สมาคมสายการบิน รวมถึงผู้แทนจากบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็น มาหารือแนวทางในการแก้ปัญหาข้อขัดแย้งโครงการเซ็นทรัล วิลเลจ ร่วมกัน โดยจะนัดมาเจรจากันต่อหน้าทุกฝ่าย เพื่อหาทางออกของปัญหาที่ดีกับทุกฝ่าย ซึ่งหากมีวิธีแก้ปัญหาที่ไม่กระทบกับกระทรวงคมนาคม ก็จะดำเนินการทันทีตามกรอบที่สามารถจัดการได้

Advertisement

เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว

เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image