นับตั้งแต่มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7 ) พ.ศ.2562 เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฏหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษเนื่องจากมีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล เพื่อกำหนดมาตรการในการควบคุมยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน และสอดคล้องตามหลักสากล โดยได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่านมา
หลังมีผลการวิจัยพบว่า สารสกัดจากกัญชาและพืชกระท่อมที่เป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 มีประโยชน์ทางการแพทย์อย่างยิ่ง และเพื่อสร้างความมั่นคงทางด้านยาของประเทศ และป้องกันไม่ให้เกิดการผูกขาดทางด้านยา สมควรแก้ไขเพิ่มเติม เพื่อเปิดโอกาสให้นำกัญชาและพืชกระท่อมไปทำการศึกษาวิจัยและพัฒนาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และใช้รักษาโรคภายใต้การดูแลและควบคุมของแพทย์ได้
องค์การเภสัชกรรม (อภ.) จึงขับเคลื่อนเริ่ม โครงการผลิตสารสกัดต้นแบบกัญชาทางการแพทย์ขององค์การเภสัชกรรม ระยะที่ 1 ที่ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี บนพื้นที่เพาะปลูก 100 ตารางเมตร
ต่อมา 3 สิงหาคม 2562 นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผอ.องค์การเภสัชกรรม แจ้งว่า อภ.ได้ส่งมอบสารสกัดน้ำมันกัญชาเกรดทางการแพทย์ให้ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ไปเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา มีทั้งหมด 3 สูตรด้วยกัน คือ 1.สูตรที่มีสาร THC สูง จำนวน 4,500 ขวด 2.สูตรสาร CBD สูงและเข้มข้น 500 ขวด และ 3.สูตรที่มีอัตราส่วนสาร CBD และ THC 1 ต่อ 1 จำนวน 1,500 ขวด รวมจำนวน 6,500 ขวด ถูกนำส่งมอบให้กับกรมการแพทย์ แล้วทยอยส่งให้กับโรงพยาบาลศูนย์ทุกเขตสุขภาพ รวม 12 แห่ง และผู้ป่วยโครงการวิจัย 2 ประเภท ได้แก่ การศึกษาวิจัยและการรักษากรณีจำเป็นสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย เพื่อให้ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยวิธีมาตรฐานแล้วไม่ได้ผล
ทั้งนี้ ใช้รักษากลุ่มเป้าหมายในผู้ป่วยที่ป่วยด้วยโรค 1.ลมชักดื้อยา 2.คลื่นไส้จากเคมีบำบัด 3.ภาวะปวดประสาท 4.ปลอกประสาทอักเสบ-เสื่อมแข็ง 5.ผู้ป่วยระยะประคับประคอง และ 6.มะเร็งระยะสุดท้าย
โรคทั้งหมดต้องผ่านการวินิจฉัยจากแพทย์ก่อนถึงจะส่งตัวมาที่คลินิกกัญชาต่อ สำหรับ รพ.ขอนแก่น เป็น 1 ใน 12 โรงพยาบาลนำร่องทั่วประเทศได้รับน้ำมันกัญชา สูตร THC สูง โดย นพ.วัชรพงษ์ รินทระ นายแพทย์ชำนาญการพิเศษกลุ่มงานเวชกรรมสังคม รพ.ขอนแก่น เผยว่า ทาง รพ.ได้เปิดให้บริการคลินิกกัญชากับผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้าย เปิดให้บริการไปแล้วเฉพาะวันอังคาร พบว่าช่วงแรกยังมีคนไข้ที่ทราบเรื่องเข้ามารับคำปรึกษายังไม่มากนัก มีผู้ที่ทราบข่าวน้อย แต่ต่อมาก็มีผู้ป่วยทยอยลงทะเบียนเข้ารับการปรึกษามาอย่างต่อเนื่อง หวั่นว่าน้ำมันกัญชาที่ได้รับอาจจะไม่เพียงพอกับผู้ป่วย ทาง รพ.จึงต้องใช้ในผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายและผู้ป่วยติดเตียงระยะสุดท้าย ที่ใช้แล้วทำให้รับประทานอาหารได้ นอนหลับ และลดอาการเจ็บปวดได้
หมอได้อธิบายให้คนไข้ทราบถึงผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพราะเคยเจอผู้ป่วยที่หยดน้ำมันกัญชาเกินปริมาณ บางคนบีบแรงบีบเร็ว ปริมาณหยดเกินความต้องการแน่นอน หรือหยดไปแล้วมันไม่ได้ผลทันทีก็มีการหยดซ้ำ อาจจะเกิดภาวะแทรกซ้อน จึงต้องให้คำแนะนำอย่างชัดเจน ในการใช้มีข้อบ่งชี้ทุกรายเราจะต้องรายงานไปยัง อย. ถึงรายละเอียดของคนไข้แต่ละราย ใช้น้ำมันกัญชาด้วยเหตุผลใด และหลังใช้มีภาวะแทรกซ้อนหรือไม่ ต้องจดบันทึกทั้งหมด และติดตามผล ในรายที่ให้แล้วมีภาวะแทรกซ้อน จากการซักประวัติหรือตรวจร่างกายอาจจะต้องหยุดยา แต่ในกรณีที่ให้แล้วประสบความสำเร็จและได้ผลดีแล้วก็จะให้ต่อไป
ประชาชนที่มีข้อสงสัยว่าโรคไหนบ้างที่สามารถใช้น้ำมันกัญชาได้ต้องมาคุยกับทางแพทย์ก่อน เพื่อที่จะให้เข้าใจตรงกัน โดยผู้ป่วยที่ใช้สิทธิบัตรทองและประกันสังคม สามารถใช้น้ำมันกัญชาได้ฟรี นพ.วัชรพงษ์กล่าว
ขณะที่คลินิกกัญชา รพ.พุทธชินราชพิษณุโลก เป็นอีกแห่งที่เป็นที่พึ่งของผู้ป่วย เข้ามาขอรับน้ำมันกัญชาจำนวนมาก เปิดให้บริการทุกวันพุธและวันศุกร์ เวลา 08.30-12.00 น.
นพ.วิสิทธิ์ เสถียรวันทนีย์ รอง ผอ.ฝ่ายการแพทย์อาวุโส รพ.พุทธชินราชพิษณุโลก เผยว่า ที่ผ่านมามีผู้มาใช้บริการจำนวนมาก แต่แพทย์จะดูความเหมาะสม ความปลอดภัยของผู้ป่วย เนื่องจากน้ำมันกัญชาในการรักษาเป็นการทดลองรักษา ต้องมีการคัดกรองอย่างรอบคอบ ยอมรับว่ามีผู้ป่วยจำนวนมากที่ต้องการน้ำมันกัญชาไปใช้รักษาโรคหวังให้หายขาด ส่วนที่ว่าน้ำมันกัญชามีน้อยอาจไม่เพียงพอนั้นไม่ต้องกังวล เพราะประเทศไทยผลิตน้ำมันกัญชาเอง คงมีเพียงพอสำหรับผู้ป่วยแน่นอน ส่วนผู้ป่วยที่เคยใช้น้ำมันกัญชาใต้ดินรักษาก่อนหน้านั้น ได้เข้ามารับการปรึกษาจำนวนมากพอสมควร
ผู้ป่วยรายหนึ่งที่เข้าคลินิกของ รพ.พุทธชินราชพิษณุโลก ให้สัมภาษณ์ว่า รู้สึกดีใจมากเริ่มมีความหวังครั้งสุดท้ายในการรักษาโรคมะเร็งเท่าที่เหลือชีวิตอยู่ เป็นกำลังใจที่ดีอยากมีอาการดีขึ้น อยากหายจากโรค ที่ผ่านมามีข่าวว่าผู้ป่วยที่รักษาด้วยกัญชาแล้วหายกัน ก็เลยอยากหายบ้าง ไม่รู้สึกกลัวหรือกังวลอะไร แต่กลับมีพลังใจเพื่อให้อยู่กับลูกหลาน ส่วนวิธีการใช้น้ำมันกัญชา แพทย์บอกว่าคนป่วยที่ไม่เคยใช้น้ำมันกัญชามาก่อน ให้ใช้เพียงครึ่งหยดผสมกับน้ำมันมะพร้าว แล้วหยดใช้ตามปกติเพื่อให้น้ำมันกัญชาที่มีความเข้มข้นเจือจางลง
ส่วนที่ รพ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี เป็นอีกแห่งที่เปิดคลินิกรักษาผู้ป่วยด้วยการใช้น้ำมันกัญชา ภายใต้การดูแลของ นพ.ประเสริฐ มงคลศิริ ผอ.รพ.หนองฉาง ได้รองรับ ผู้ป่วยที่เดินทางมาจากทั่วสารทิศ ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สอบถาม พบว่าบางรายที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งเดินทางมาจาก จ.ระยองบ้าง และไกลสุดจาก จ.สงขลา
ผู้ป่วยหญิงรายหนึ่งอายุ 55 ปี ชาวลพบุรี มีอาการของโรคพุ่มพวง หรือโรคแพ้ภูมิตัวเอง จะมีอาการปวดกระดูกและบวมตามข้อต่างๆ ของร่างกาย ทรมานมาก ตัดสินใจมารักษาที่ รพ.หนองฉาง เพื่อช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วย โดยใช้น้ำมันกัญชาหยดร่วมกับการกินยาแผนปัจจุบัน พบว่าช่วยบรรเทาอาการได้ดีขึ้น อาการปวดกระดูกลดลง นอนหลับได้ลึกและสบายมากขึ้น
เช่นเดียวกับที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ได้เดินทางมาเป็นประธานเปิดคลินิกกัญชา เพื่อรักษาทางการแพทย์ หรือ CBD CLINIC เมื่อ 17 สิงหาคม 2562 ที่ผ่านมา โดยมีบุคลากรทางการแพทย์แผนไทยให้คำปรึกษาตั้งแต่วันจันทร์-ศุกร์ ในช่วงเวลาราชการ
พบว่าประชาชนที่ทราบข่าวเดินทางมาขอรับคำปรึกษาจากแพทย์ และพยาบาลวิชาชีพกันอย่างคึกคัก เป็นการให้ความรู้ก่อนว่าอาการโรคแบบใดเหมาะสมที่จะใช้น้ำมันกัญชาได้อย่างปลอดภัย
ขณะที่บรรยากาศการเข้าใช้บริการคลินิกกัญชา รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี ยังเต็มไปด้วยผู้ป่วยที่มาขอใช้บริการ ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร ประธานยุทธศาสตร์การแพทย์แผนไทยและสมุนไพร รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร เปิดเผยว่า หลังจากเปิดคลินิกกัญชา 2 ครั้งที่ผ่านมา นอกจากผู้ป่วยติดต่อสอบถามและเข้ารักษาเป็นจำนวนมากแล้ว ยังมีผู้ป่วยต่างประเทศติดต่อสอบถามเพื่อขอเข้ารับการรักษาเป็นจำนวนมากเช่นกัน และการเปิดให้บริการครั้งที่ 3 ผู้ป่วยจากหลายจังหวัดเดินทางเข้ารับการตรวจรักษาอย่างต่อเนื่อง และได้เริ่มจ่ายน้ำมันกัญชาสกัดจากของกลางที่ผ่านมาตรฐานจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ให้แก่ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาโรคลมชัก และโรคพาร์กินสันที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาแผนปัจจุบัน รวมทั้งผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย
น้ำมันกัญชา นับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้ป่วย โดยหวังผลว่าหากได้รักษาแล้วหวังว่าจะช่วยทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นต่อไป
