นายสฐีรณัฐ ลาภไกวัล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ชิปป์สไมล์ เซอร์วิส จำกัด ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มธุรกิจออฟไลน์แบบครบวงจร หรือระบบโปรแกรมหน้าร้านเสมือนร้านสารพัดงานบริการ มองภาพรวมการเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซ ว่า ข้อมูลจากสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือเอ็ตด้า ระบุว่า มูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซ ปี 2561 อยู่ที่ 3.05 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 9-10% โดยคาดว่า จากนี้จนถึงปี 2565 ตลาดอีคอมเมิร์ซไทยน่าจะเติบโตขึ้นเฉลี่ย 22% และมีสัดส่วนการซื้อขายออนไลน์ที่สูงขึ้นเช่นกัน แม้ปัจจุบันจะมีเพียง 3% ของยอดค้าปลีกทั้งระบบ แต่เชื่อได้ว่าตลาดนี้จะมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก ซึ่งเป็นผลมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้คนที่เปลี่ยนไปจากอดีต
นายสฐีรณัฐกล่าวว่า ชิปป์สไมล์จึงเห็นโอกาสในการสร้างธุรกิจ และเปิดให้บริการชิปป์สไมล์ เซอร์วิส ศูนย์รวมบริการขนส่งชั้นน้าของไทยแบบครบวงจรกว่า 600 สาขาทั่วไทย มีบริการส่งพัสดุในราคาเริ่มต้นเพียง 25 บาทพร้อมบริการเก็บเงินปลายทาง (ซีโอดี) นอกจากนี้ ยังมีการให้บริการพื้นฐานด้านอื่นๆ เช่น การชำระเงินออนไลน์ต่างๆ, การทำเรื่อง พ.ร.บ.และการต่อภาษีรถ เป็นต้น โดยในส่วนของบริการด้านขนส่งนั้น บริษัทได้ร่วมกับพันธมิตร อาทิ ไปรษณีย์ไทย, แฟลช เอ็กซ์เพรส, อัลฟ่า และดีเอชแอล
“ชิปป์สไมล์ เปิดให้บริการมาแล้วร่วม 2 ปี มีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศกว่า 600 สาขา ทำรายได้รวมกว่า 80 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต อยู่ที่ 1,000% และมียอดรับส่งพัสดุ จำนวน 400,000 ชิ้นต่อเดือน ขณะที่ ตั้งเป้าในไตรมาสสุดท้ายของปี 2562 จะต้องมีสาขาให้บริการเพิ่มเป็น 1,000 สาขา มียอดรับส่งพัสดุ จำนวน 1,000,000 ชิ้นต่อเดือน และมีการเติบโต อยู่ที่ 1,400% ส่วนปี 2563 มีแผนขยายสาขาให้ครอบคลุมทุกตำบลและอำเภอ และเพิ่มบริการส่งสินค้าไปยังต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังมีงานบริการอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อรองรับการเติบโตของตลาด ซึ่งเชื่อว่า ธุรกิจหรือบริการทั้งหมดจะสามารถสร้างความเติบโตทั้งรายได้ และกำไรให้แก่บริษัท รวมถึงผู้ประกอบการได้ในระยะยาว” นายสฐีรณัฐกล่าว
เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว
