เปิดใจแม่ลักเงินกฐิน 160 บ.จนต้องนอนคุก เหตุเพราะลูกสาวหิวข้าว บอกจะไม่ทำอีกแล้ว

เมื่อวันที่ 5 กันยายน น.ส.มิ่งขวัญ (สงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี ให้สัมภาษณ์กรณีที่ตัดสินใจขโมยเงินจากต้นกฐิน 160 บาท เพื่อนำเงินซื้อข้าวให้ลูก และโดนแจ้งจับดำเนินคดี ซึ่งศาลได้ตัดสินให้ชำระค่าปรับเป็นเงิน 5,000 บาท และต้องติดคุก 1 คืน (อ่านรายละเอียด น้ำตาไหลทั้งโรงพัก! ห้างแจ้งจับแม่ลักเงิน 160 บาทซื้อข้าวให้ลูก 2 คนกิน จนสะเทือนใจทั้งโซเชียล) ว่า ในวันเกิดเหตุ ลูกสาวมาบอกว่าหิวข้าว แม่มีเงินหรือไม่ ตอนนั้นไม่มีติดตัวเลยซักบาท จะยืมใคร ไม่ให้ยืมแล้ว เพราะแต่ก่อนเคยไปยืมเงิน แล้วก็คืน จากนั้นก็ยืมใหม่ จนตอนนี้ไม่ให้ยืมเลย ไม่รู้จะทำยังไง เพราะเห็นลูกหิว สงสารลูกมาก เลยไปที่ห้าง ไปหาหลวงพ่อ เห็นถังทอดกฐินตั้งอยู่ ตนก็ไหว้หลวงพ่อแล้วขอยืมเงินหน่อย หยิบมา 60 บาท แล้วตอนนั้นแบงก์ 100 บาทก็หล่นมา เลยหยิบเข้ากระเป๋ามาด้วย ช่วงนั้นพนักงานห้างก็เห็น เลยมาจับคอเสื้อแล้วล็อกเราไว้ บอกว่าเป็นขโมย แล้วจะบอกกับเจ้าของห้าง เราบอกว่าไม่ได้ขโมย แค่ยืมแล้วก็คืนตลอด ทำแบบนี้มา 3 ครั้งแล้ว ครั้งนี้ครั้งที่ 3 เพราะทนเห็นลูกหิวไม่ได้ ตนคืนเงินตลอด แต่ไม่มีใครเชื่อ ก็เลยโดนจับส่งตำรวจ

“ตอนนั้นคิดว่าจะต้องเข้าคุกแล้ว คงไม่ได้เจอลูกอีก เลยขอให้ทางห้างแวะส่งหาลูกแป๊ปนึง ขอเจอหน้าลูกเป็นครั้งสุดท้าย เป็นห่วงลูก แต่เขาไม่ยอม พามาส่งที่ สน.บางซื่อเลย จึงขอร้องให้ตำรวจติดต่อลูกให้หน่อย เพราะอยากเจอลูกจริงๆ แล้วตำรวจก็ติดต่อให้ พอลูกชายคนโตมา ก็วิ่งมาร้องไห้ แล้วถามว่าทำแบบนี้ทำไม เราก็ขอโทษลูกไป พอลูกคนเล็กมา ก็วิ่งมาหา ถามว่าทำไมถึงทำ แม่เป็นคนสอนเองไม่ให้ขโมย ทำไมถึงทำเอง ตอนนั้นรู้ว่าผิด ยอมรับผิดทุกอย่าง ขอโทษลูกไป บอกว่าไม่ได้ตั้งใจจริงๆ” น.ส.มิ่งขวัญ กล่าว

น.ส.มิ่งขวัญกล่าวอีกว่า ในตอนที่ลูกบอกว่าอยากจะเข้าไปนอนในห้องขังด้วย แต่ว่าลูกนอนไม่ได้ เลยกลับไปทำกับข้าว ทอดไข่เจียวมาให้แม่กิน รู้สึกเสียใจมาก ที่ทำให้ลูกผิดหวัง สงสารลูก ทำให้ลูกต้องมาลำบาก ลูกบอกให้แม่กินข้าวนะ ตนกินไม่ลง มันจุกที่อก เลยให้ข้าวกับผู้ต้องขังอีกคนนึง แล้วลูกก็มาถามว่าข้าวไข่เจียวหนูอร่อยมั้ย ก็บอกว่าอร่อย ตอนนั้นก็ร้องไห้อีก คิดอย่างเดียวจะไม่ทำอีก ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย ขอบคุณทุกๆ คนที่ให้ความช่วยเหลือ

น.ส.มิ่งขวัญกล่าวว่า วันต่อมาตนไปที่ศาล จะต้องจ่ายเงินค่าปรับ 5,000 บาท แต่ไม่มีเงินเลย มีอีกทางหนึ่งคือต้องบำเพ็ญประโยชน์ 10 วัน แต่ทำไม่ได้ เพราะว่าหยุดได้แค่ 2 วัน ตอนที่ลูกสาวไปบอกเจ้านายว่าตนโดนจับ ยังไม่มีใครเชื่อเลย เหลือทางเดียวคือต้องจ่ายเงิน ตอนนั้นตำรวจบอกว่ามีคนมาจ่ายค่าปรับให้แล้วก็เอาเงินมาให้ลูกตนด้วย ก็ดีใจมาก

Advertisement

“ตอนนี้ลูกได้ทุนเรียนที่โรงเรียนวัดไผ่ตันจนถึง ป.6 มันเป็นความฝันของลูก เพราะก่อนหน้านี้บ่นว่าอยากเรียนมาก ก็บอกให้อดทนนิดนึงนะ ตอนนี้แม่ไม่มีเงินเลย ตอนนี้ได้เรียนแล้วก็ดีใจมาก ที่ผ่านมาลูกไม่เคยได้กินของดีๆ เลย กินแต่ไข่เจียวกับมาม่า พยายามประหยัดตลอด ยอมอด แต่ไม่อยากให้ลูกอด สัญญากับลูกๆ ไว้ว่าจะไม่ทำเรื่องแบบนี้อีกแล้ว” น.ส.มิ่งขวัญ กล่าว

ด.ญ.ขนิษฐา ลูกสาว กล่าวว่า ตอนแรกอาศัยอยู่กับแม่ และพี่ชายที่วัดไผ่ตัน ต่อมาถูกไล่ที่ เลยมาอยู่ที่ซอยอินทามระ 31 แล้วก็ถูกไล่ที่เหมือนเดิม เลยย้ายมาอยู่ที่ซอยอินทามระ 29 อาพาร์ทเม้นท์ธัญนี ส่วนแม่ทำงานอยู่ที่แมคโดนัลด์ แม่เป็นแม่บ้านทำไก่แล้วก็ล้างจาน แต่ก่อนช่วงวันหยุด ตน และน้องจะออกไปทำงาน ช่วยแม่หาเงิน แต่ว่าเดี๋ยวนี้ไม่ได้ไปแล้ว เพราะต้องเรียนหนังสือ

“วันนั้นหนูนอนอยู่ที่ห้อง มีคนโทรมาบอกว่า แม่ถูกจับอยู่ที่ สน.บางซื่อ หนูเลยรีบวิ่งไปหาแม่ ตอนแรกหนูก็ไม่รู้ว่าแม่โดนจับเรื่องอะไร พอหนูไปถึงก็เห็นแม่นั่งร้องไห้อยู่กับตำรวจ หนูก็ร้องตาม แล้วถามตำรวจว่าแม่ทำผิดอะไร ทำไมถึงจับแม่มาที่นี่ ตำรวจบอกว่า แม่ขโมยเงินที่บิ๊กซี 160 บาท วันนั้นที่หนูขอเข้าไปนอนกับแม่ในคุก ปกติเรา 3 คนนอนด้วยกันตลอด หนูกลัวแม่เหงา เลยอยากไปนอนเป็นเพื่อน หนูขอเข้าไปนอนกับแม่ แต่ว่าตำรวจไม่ยอมให้เข้าไป ตอนนั้นหนูเหลือเงินอยู่ 10 บาท หนูเลยกลับบ้านไปทำข้าวไข่เจียวแล้วซื้อข้าวมาให้แม่กิน แล้วหนูก็กลับบ้าน” ด.ญ.ขนิษฐา กล่าว

Advertisement

ด.ญ.ขนิษฐากล่าวอีกว่า พอหนูกลับมาที่ห้อง คิดถึงแม่มาก เลยเอาเสื้อแม่มาใส่หมอนแล้วนอนกอด แล้วบอกกับตัวเองว่า ทนอีกหน่อยเดี๋ยวก็ได้เจอแม่แล้ว คิดถึงแม่มาก ตอนนั้นพี่บอกว่าเดี๋ยวแม่ก็ออกมาแล้ว พอตื่นมาก็คิดว่าแม่นอนอยู่ แต่ว่าแม่ไม่ได้นอน เลยรีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วไปหาแม่เลย พอรู้ว่าแม่ออกมาแล้ว ก็ดีใจมาก แล้วตอนนี้หนูกับพี่ก็ได้เรียนแบบที่อยากเรียนแล้ว ได้เรียนแบบถาวรจนจบ ป.6 หนูอยากเรียนวาดรูป หนูชอบภาษาไทย เวลาว่างๆ หนูชอบไปอ่านหนังสือในเซเว่น

“แม่หนูป่วย เป็นโรคเกาต์ เพราะว่าเดินเยอะ และหนูก็จะตั้งใจเรียน หนูขอบคุณคนที่มาจ่ายค่าปรับให้แม่ ขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือพวกเรา ขอให้รวยๆ ขอบคุณที่ช่วยเหลือเรา หนูอยากจะบอกแม่ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นแม่ทำครั้งแรก ไม่อยากให้แม่ทำอีก มีแค่ไหนก็มีแค่นั้น” ด.ญ.ขนิษฐา กล่าว

ขอบคุณ เรื่อง/ ภาพ จากข่าวสดออนไลน์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image