บทนำ : 3สารเคมียังไม่จบ

ไม่น่าเชื่อว่าสารเคมีอันตรายในภาคเกษตรกรรมที่ปรากฏเป็นข่าวมานับปีจะยังไม่มีข้อยุติ ล่าสุด นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน แถลงข่าวว่า การใช้สารเคมีพาราควอตยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีการใช้อย่างเสรีโดยไม่มีมาตรการควบคุมการใช้ในภาคการเกษตร ทำให้ผู้ใช้ขาดความระมัดระวังหรือป้องกันการปนเปื้อนสิ่งแวดล้อม เสี่ยงต่อชีวิตและร่างกายของผู้ใช้ ทั้งจากอุบัติเหตุและจากการสัมผัสสารเคมีปนเปื้อนทั่วไป ผู้ตรวจการแผ่นดินจึงมีข้อเสนอแนะให้หน่วยงานดำเนินการปรับปรุงประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อยกเลิกการใช้
พาราควอตให้แล้วเสร็จภายใน 120 วัน ซึ่งแจ้งครั้งแรกเมื่อเดือนธันวาคม 2561 ต่อมา
กระทรวงอุตสาหกรรมแจ้งว่าคณะกรรมการวัตถุอันตรายยังคงอนุญาตให้ใช้สารพาราควอตได้ ภายใต้มาตรการจำกัดการใช้ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ประเด็นสารเคมีอันตรายในภาคเกษตรกรรมนี้ปรากฏเป็นข่าวเป็นระยะ โดยสรุปคือ สารเคมีดังกล่าวฝ่ายกระทรวงสาธารณสุขเห็นพ้องต้องกันว่ามีอันตรายสมควรจะระงับการใช้ และมีเสียงสนับสนุนโดยทั่ว แต่เมื่อคณะกรรมการวัตถุอันตรายพิจารณา กลับพบข้อจำกัด คือ ไม่มีสารทดแทน จึงไม่ยกเลิก โดยในปลายเดือนกันยายน คณะกรรมการวัตถุอันตรายจะพิจารณาความคืบหน้าการใช้วัตถุอันตราย 3 รายการ ได้แก่ พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต อีกครั้ง ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2561 คณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติไม่ยกเลิกการใช้วัตถุอันตรายทั้ง 3 รายการ แต่ให้ควบคุมให้ใช้เฉพาะ 6 พืช ประกอบด้วย ยางพารา ปาล์ม มันสำปะหลัง อ้อย ข้าวโพด และไม้ผลที่ขึ้นทะเบียน ส่วนการยกเลิกนั้นต้องขึ้นอยู่กับกรมวิชาการเกษตรที่จะหาสารทดแทนให้ได้ภายในปี 2564 หากหาสารทดแทนได้ก็จะยกเลิกได้

นอกจากนี้ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดพิเศษ มีวาระพิจารณาตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการควบคุมการใช้สารเคมีในภาคเกษตรกรรมด้วย เนื่องจากเห็นว่าสารเคมี 3 ตัว เป็นอันตราย โดยที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ จำนวน 39 คน ใช้เวลาศึกษา 60 วัน หวังว่าความเคลื่อนไหวของทุกองคาพยพของประเทศเพื่อหยุดการใช้สารเคมีที่เป็นอันตราย และการหาสารทดแทนที่ไม่เป็นภัยต่อมนุษย์จะเกิดขึ้นโดยเร็ว มิเช่นนี้สารอันตรายทั้ง 3 ตัวจะคอยหลอกหลอนเกษตรกรและผู้บริโภคที่ต้องยอมจำนนในการใช้สารเคมีที่รู้ทั้งรู้ว่ามีอันตรายต่อร่างกายและชีวิต

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image