เมื่อวันที่ 26 กันยายน ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณตอนบนของลุ่มน้ำสาขาทุกสายของแม่น้ำปราจีนบุรี ในจังหวัดปราจีนบุรีทำให้ปริมาณน้ำและระดับน้ำในแม่น้ำปราจีนบุรีเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนไหลล้นตลิ่งบริเวณตลาดเก่ากบินทร์บุรี ตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย. ช่วงเวลา 19.00 น. ส่งผลให้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบบริเวณ ตำบลกบินทร์บุรี อำเภอกบินทร์บุรี ที่ผ่านมานั้น สำนักงานชลประทานที่ 9 จึงเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำแม่น้ำปราจีนบุรี บริหารจัดการน้ำและให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยให้โครงการชลประทานปราจีนบุรี รับน้ำเข้าทุ่งท่าแห วันละประมาณ 9 ล้าน ลบ.ม. ผ่านประตูระบายน้ำเพชรเอิม และประตูระบายน้ำกระพ้อใหญ่ อีกทั้ง ยังให้โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาบางพลวง รับน้ำเข้าทุ่งบางพลวง ผ่านประตูระบายน้ำหาดยางตามศักยภาพ โดยควบคุมไม่ให้เกิดผลกระทบกับพื้นที่ด้านท้ายน้ำ หลังจากนั้นจะระบายน้ำออกจากทุ่งผ่านประตูระบายน้ำคูมอญ ลงสู่แม่น้ำบางประกง ตามลำดับ รวมทั้งเตรียมพร้อมสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า 3 แห่ง เพื่อระบายน้ำลงสู่แม่น้ำบางปะกง ช่วยลดระดับน้ำในแม่น้ำปราจีนบุรี ตามความจำเป็น ซึ่งช่วง 3 วันที่ผ่านมา ฝนที่ตกในพื้นที่ อำเภอกบินทร์บุรี มีปริมาณลดลง ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำปราจีนบุรีเริ่มทรงตัวและมีแนวโน้มลดลงตามไปด้วย โดยในวันเดียวกันนี้ ระดับน้ำในแม่น้ำปราจีนบุรี ที่สถานีวัดน้ำ Kgt.3 ตลาดเก่า อำเภอกบินทร์บุรี มีระดับน้ำ 9.77 เมตร ต่ำกว่าตลิ่ง 0.43 เมตร(ระดับทะเลปานกลาง) แต่ยังคงสูงกว่าพื้นที่ต่ำริมตลิ่งตลาดกบินทร์บุรีประมาณ 1 เมตร คาดว่าหากไม่มีฝนตกหนักเพิ่มเติม สถานการณ์น้ำจะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 5 วัน
กรมชลประทาน โดยโครงการชลประทานปราจีนบุรี ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 8 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง เพื่อช่วยเหลือพื้นที่ประสบอุทกภัย บริเวณชุมชนตลาดเก่ากบินทร์บุรี และโรงเรียนเทศบาล 2 (วัดใหม่ท่าพานิชย์) ด้านโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาบางพลวง ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ขนาด 8 นิ้ว จำนวน 4 เครื่อง เพื่อช่วยสูบน้ำฝนที่ค้างในทุ่งบางพลวง ลงสู่คลองหาดยาง นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ชลประทานยังลงพื้นที่ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี พบปะให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพให้แก่ราษฎรในชุมชนตลาดเก่ากบินทร์บุรี รวมทั้ง เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ บริเวณแม่น้ำปราจีนบุรีอย่างต่อเนื่อง ตรวจสอบระบบชลประทานให้สามารถรองรับสถานการณ์น้ำได้อย่างเต็มศักยภาพ เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลัง
